รายละเอียด
ชุมชนบ้านบัวเทิง ศูนย์แห่งการเรียนรู้วิถีชีวิตการดำรงชีวิตเพื่อความสุขอย่างพอเพียง การทำการเกษตรผสมผสาน เกษตรปลอดสารพิษ และแหล่งเรียนรู้การทำปุ๋ยหมักจุลินทรีย์ชีวภาพ ประโยชน์และการใช้ปุ๋ยหมักชีวภาพกับการเกษตร การใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการพัฒนาการเกษตรให้เหมาะสมกับพื้นที่ภาคอีสานที่ร้อนและแห้งแล้ง
ประวัติความเป็นมา
ชุมชนบ้านบัวเทิง ก่อตั้งขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 2372 คนกลุ่มแรกที่เข้ามาอยู่เป็นชาวลาวเวียงหรือลาวจากเวียงจันทร์ สาเหตุมาจากขณะนั้นไทยยกทัพไปตีเวียงจันทร์ ทำให้คนลาวแตกทัพหนีเข้ามาในไทย แรกทีเดียวมาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่โนนบ้านบัวท่า เพราะเห็นว่ามีป่าและน้ำอุดมสมบูรณ์ดี มีหนองน้ำขนาดใหญ่ชื่อหนองบัวหล่มใช้ทำมาหากิน ต่อมาหลังเกิดสงครามอินโดจีนประมาณ ปี พ.ศ. 2482-2483 จึงพากันย้ายถิ่นฐานจากโนนบ้านบัวท่า สาเหตุของการย้าย เนื่องจากในช่วงนั้น จะมีทหารมาเกณฑ์คนเข้าไปทำงานในการซ่อมแซมตึกรามบ้านช่องที่เสียหายจากสงคราม ในเมืองอุบลราชธานี คนลาวที่รวมกันอยู่ที่โนนบ้านบัวท่ากลัวจึงแยกย้ายกันหลบหนี และมารวมกลุ่มกันตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณหนองน้ำที่เรียกชื่อว่า หนองบัวหล่มเก่า ใช้ทำมาหากิน ปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ เป็นที่อยู่ในปัจจุบัน ผู้นำชุมชนในขณะนั้นชื่อพ่อใหญ่หนูกะลอม ตั้งชื่อหมู่บ้านว่าบ้านหนองบัวหล่ม แต่ที่ตั้งหมู่บ้านอยู่ที่สูงจึงเปลี่ยนชื่อใหม่ให้สอดคล้องกับที่ตั้ง โดยเอาชื่อ “หนองบัว” มารวมกับคำว่า “เทิง” ซึ่งแปลว่าสูง เป็นชื่อใหม่ว่า “บ้านบัวเทิง” และตั้งหมู่บ้านเป็นทางการเมื่อประมาณ พ.ศ.2483 ชาวบ้านบัวเทิงนิยมปลูกผักสวนครัวไว้กินเองพืชผักที่ปลูกเป็นพืชผักปลอดสาร นอกจากนี้ด้วยความที่ชุมชนมีสภาพพื้นที่เหมาะกับการเกษตร และเพาะปลูก จึงสามารถปลูกไม้ผลที่มีถิ่นกำเนิดจากภาคตะวันออกและภาคใต้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ทุนเรียน จากเมืองจันทบุรี ลูกใหญ่ กลิ่นหอม สวนกล้วยหอมทองลูกโต หอมหวาน สวนพุทรารสชาติเยี่ยม สวนแก้วมังกรและแปลงดอกเบญจมาศ ชาวบ้านบัวเทิงนับถือศาสนาพุทธและศาสนาคริสต์และมีความเชื่อในอำนาจของสิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็น และความเชื่อในสิ่งที่สืบทอดต่อกันมา เช่น ไหว้เสาหลักบ้าน (หลักเมือง) เป็นต้น
ลักษณะเด่น
เป็นศูนย์แห่งการเรียนรู้วิถีชีวิตการดำรงชีวิตเพื่อความสุขอย่างพอเพียง
ที่มาข้อมูล
Thailand Tourism Directory