คำค้นยอดฮิต: ข้าวเหนียวมะม่วง ของขวัญออแกนิค ผลไม้สด
TH | EN
฿ 0.00
สวนละไม
สวนละไม ตำบลป่ายุบใน อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง
Image
Image
Image
Image
สภาพอากาศวันนี้
เปิดทำการ
วันเวลาทำการ
• วันอาทิตย์
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันจันทร์
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันอังคาร
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันพุธ
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันพฤหัสบดี
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันศุกร์
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันเสาร์
: 09:00 น. - 16:00 น.
หมายเหตุ
: -
แผนที่และพิกัดที่ตั้ง
คะแนนรีวิว
0
ความพร้อมสถานที่
0
ความคุ้มค่า
0
การให้บริการ
0
อ่านทั้งหมด >
รายละเอียด
เป็นสวนผลไม้ขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 500 ไร่ มีรถบริการให้นักท่องเที่ยวนั่งชมสวนและรับประทานผลไม้ในรูปแบบบุฟเฟ่ต์ในช่วงฤดูผลไม้ ทั้ง เงาะ มังคุด ลำไย ส้มโอ ฯลฯ และในช่วงฤดูหนาว สวนละไมจะเปิดให้ชมไร่สตอเบอรี่ และ ทุ่งดอกคอสมอสสีสันสวยงาม และยังมีฟาร์มแกะเอาใจคนรักสัตว์ไว้ให้ป้อนนม และถ่ายรูปกับแกะแสนรู้อีกด้วย
ประวัติความเป็นมา
เมื่อ 15 ปีที่แล้ว ขณะที่ชาวสวนในพื้นที่ อ.วังจันทร์ จ.ระยอง แห่ไปปลูกพืชล้มลุก ซึ่งปลูกง่ายได้ราคาดี ตรงกันข้ามกับ “ไพโรจน์ ปิติพันธรัตน์” เลือกลงทุนลงแรงปลูกผลไม้นานาชนิด ควบคู่พัฒนาพื้นที่ ปูทางเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ แม้ในเวลานั้นจะสร้างความสงสัยให้ใครหลายคน แต่ปัจจุบันพิสูจน์แล้วว่าวิสัยทัศน์ดังกล่าวเฉียบคม เพราะดินแดงแห่งนี้เติบโตเป็น “สวนละไม” อาณาจักรชิมชอปผลไม้บุฟเฟต์ชื่อดังระดับประเทศ ก้าวข้ามจากแค่ขายส่งผลไม้ตามฤดูกาลสู่ธุรกิจบริการท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่มาได้ตลอดทั้งปี นับเป็นเกษตรแนวใหม่ที่สร้างความมั่งคั่ง และยั่งยืน จนเมื่อปี พ.ศ. 2557 เมื่อมีความพร้อมทุกด้าน บนเนื้อที่กว่า 500 ไร่จากพื้นที่รวม 700 ไร่ ถูกจัดสรรเปิดเป็นสวนผลไม้บุฟเฟต์อย่างเป็นทางการ ในชื่อ “สวนละไม” “ช่วงที่เปิดแรกๆ ก็ยังเงียบ คนไม่รู้จัก แต่หลังจากมีนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกๆ เข้ามาแล้วช่วยไปบอกต่อ โดยเฉพาะทางโซเชียลมีเดีย ทำให้ลูกค้ามากขึ้นตามลำดับ จากปีแรกผมเปิดสวนแค่ 1 เดือนมีลูกค้าประมาณ 2 หมื่นคน ปีต่อมา (2558) ผมตั้งเป้า 5 หมื่นคน แต่ปรากฏว่ายอดลูกค้าเข้ามาเที่ยวรวมเกือบ 1 แสนคน และปีนี้ (2559) ผมตั้งเป้า 1.2-1.5 แสนคน แค่สิ้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมายอดลูกค้ามาแล้วกว่า 6 หมื่นคน” เจ้าของสวนผลไม้บุฟเฟต์ระบุ
ลักษณะเด่น
- บรรยากาศฟาร์มแกะบนเนินเขา ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย ร่มรื่น
- บรรยากาศสวนผลไม้หลากหลาย สามารถเก็บได้จากต้นสดๆ หลากหลายให้เลือกชิม
ที่มาข้อมูล
Thailand Tourism Directory
ข้อมูลแนะนำ
ราคาค่าเข้าชม
• ราคาค่าเข้าชม: ไม่มีค่าใช้จ่าย
• หมายเหตุ : -
รีวิว (0)
0
จาก 5.0
ความพร้อมสถานที่
ความคุ้มค่า
การให้บริการ
แนะนำแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่คล้ายกัน
คาโนนะคาเฟ่ แฟ ฟิน ฟาร์ม เป็นการจำลองบรรยากาศสไตล์หมู่บ้านญี่ปุ่นโบราณ และมีสวนดอกไม้สให้ได้มาถ่ายภาพ
นครราชสีมา
เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่ยังคงมีความเป็นธรรมชาติ และบริสุทธิ์ อบอุ่นไปด้วยวิถีชีวิตที่งดงามของชาวเขา ในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค. ซึ่งป็นฤดูทำนาข้าว นักท่องเที่ยวจะได้ชม
แม่ฮ่องสอน
เส้นทางถนนในถ้ำขรุขระ เมื่อขับไประยะหนึ่งมีน้ำตกไหลในอุโมงค์ มีน้ำไหลเหมือนลำธารตลอดปีเพราะอุโมงค์ขุดผ่านตาน้ำ ภายในอุโมงค์มีหินงอกหินย้อยงดงามที่ก่อตัวขึ้นบนผนังตลอดทางซ้ายขวา มีอุโมงค์แยก ซึ่งเป็นทางแยกที่ขุดไปตามสายแร่ ดังนั้นหากเข้ามาโดยไม่มีผู้นำทาง อาจจะหลงทางอยู่ในอุโมงค์มืดมิด สามารถเข้าชมได้ตลอดปี
กาญจนบุรี
ที่นี่ บ้านนาสวนสามขา อำเภอสันติสุข สัมผัสวิถีเนิบช้ากับยามเช้าอันแสนสงบ เที่ยวชมท้องทุ่งสีเขียวอ่อน ในหน้าฝน สูดดิน กลิ่นโคลน สุดสดชื่นระรื่นตา กับบรรยากาศชายทุ่งเดินเล่นทอดน่องพักผ่อนสบายๆ กินอยู่ง่ายๆ เก็บพืชผักสวนครัวในบ้าน นำมาปรุงอาหาร เป็นเมนูในท้องถิ่น แค่นี้ก็อิ่มอร่อยมีเวลาเหลือๆ ลงแปลงเพาะกล้า ทำนาโยน เรียนรู้การเกษตรวิถีใหม่ บางคนไม่ใช่เกษตรกรโดยตรง ไม่เคยดำนา มาท่องเที่ยว อยากเดินย่ำโคลนโยนข้าว สัมผัสสายลม และท้องทุ่งขนต้นกล้าที่เพาะไว้ไปแปลงนา เดินป่าๆ โยนๆ แบบซิวๆ ไม่ต้องก้มให้เมื่อย ยิ่งแดดร่ม ลมตกแบบนี้สบายๆ
น่าน
สวนองุ่นแวงเดอร์เรย์ (Vin De Ray) เป็นสวนองุ่นที่คัดสรรพันธุ์องุ่นสำหรับการผลิตไวน์โดยเฉพาะ พิกัด : https://goo.gl/maps/TAiSBmBywwVD5ek86
สระบุรี
พิกัด https://goo.gl/maps/5VAeHUFWAcovFCuYA
สระบุรี
อินทผลัมเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ของอำเภอห้วยทับทัน มีทั้งหมด 10 สายพันธุ์ ซึ่งนำเข้าจากประเทศอียิปต์ อาทิ คาลูเต้ อัจวะห์ ซากูลใหญ่ ซากูลเล็ก บาฮี เจ้าชายซาอุ อัมเอสดาฮาน โคไนซี่ ชิชิ และนาเวนเดอร์ เป็นต้น เป็นแหล่งเรียนรู้เชิงเกษตรการเพาะเนื้อเยื่อ SUKAN DATE PALM และเดินชิม ชมสวนอินทผลัมแต่ละสายพันธุ์ซึ่งเป็นผลผลิตของศูนย์เรียนรู้ฯ ตลอดจนสินค้าชุมชนอื่น ๆ ทั้งทุเรียน กล้วยหอมทอง ผลิตภัณฑ์ผ้าไหม ฯลฯ
ศรีสะเกษ
สวนโบราณ 200 ปี เป็นสวนที่มีการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในระยะยาว เพื่อคนจำนวนมากที่สุด สวน 200 ปี ตั้งอยู่เลขที่ 5 หมู่ที่ 11 ตำบลแหลมทราย อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร ห่างจากตลาดหลังสวนราว 2 กิโลเมตร ผู้ที่ดูแลสวนอยู่ในปัจจุบันคือ คุณลุงสำเริง รัชเวทย์ ทายาทช่วงที่ 4 ของตระกูล สวน 200 ปี เป็นสวนเบญจพรรณ คือปลูกไม้ผลหลายๆ ชนิดรวมกัน โดยไม่ได้แบ่งเขต แบ่งโซน ชนิดของไม้ผลมีทุเรียนพื้นบ้าน มังคุด เงาะพื้นบ้าน ลางสาด หมาก มะพร้าว จันทน์เทศ สะตอ ลูกเนียง ละมุด จำปา ขนุน มะไฟ กล้วย ไผ่ พืชผักสวนครัว สมุนไพรต่างๆ สำหรับการบำรุงรักษา อาศัยธรรมชาติเป็นหลัก ปราศจากการใช้ปุ๋ยเคมีเพื่อเร่งการเจริญเติบโต การบำรุงดินทำโดยเลี้ยงหญ้าบำรุงดิน ช่วยให้ดินมีความชุ่มชื้นตลอดปี ส่วนปุ๋ยเป็นปุ๋ยจากธรรมชาติ เป็นวัฏจักรหมุนเวียน เช่น ใบไม้ และซากพืชล้มลุกที่ทับถมตลอดปี ส่วนการป้องกันกำจัดศัตรูพืช มีนก กระรอก กระแต คอยจับกินหนอน แมลง เป็นอาหาร ต้นทุนในการดูแลสวน แยกออกได้เป็นส่วนๆ คือ เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิต ต้องจ้างแรงงานถางหญ้าบ้าง โดยเฉพาะโคนต้นเพื่อให้การเก็บเกี่ยวได้สะดวก ส่วนต่อมาคือถางบริเวณที่จะปลูกต้นไม้ซ่อมแซมลงไป
ชุมพร
กิจกรรมให้ลูกค้าได้เที่ยวมี 3 ส่วนหลักๆ ดังนี้ - คาเฟ่มีสุข มีอาหารและเครื่องดื่มให้บริการ เมนูแนะนำคือ "กฤษณากาแฟ" ที่เราใช้ส่วนผสมจากกฤษณาสกัดมาเป็นหัวใจในเครื่องดื่มนี้ นอกจากความหอมเฉพาะตัวแล้วยังเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าสรรพคุณต่างๆมากมาย มีอาหารถิ่นที่สร้างสรรค์ขึ้นจากชุมชนเพื่อให้ลูกค้าได้เข้าถึงวิถีชีวิตท้องถิ่นดั้งเดิมของมีสุขฟาร์ม สัมผัสบรรยากาศของป่ากฤษณาที่มีอายุกว่า30ปี เป็นป่าผสมผสานที่ได้รับรางวัลเกษตรกรแห่งชาติ บนพื้นที่กว่า200ไร่ เติมพลังแห่งความสุขกับธรรมชาติที่หาไม่ได้ทั่วไป - ถ่ายรูปสวยๆ เช็คอินในมีสุขฟาร์ม - ข้ามสะพานมีสุขเพื่อทิ้งความทุกข์และเก็บความสุขกลับไป - ให้อาหารน้องปลาบึก - ให้อาหารน้องหมูป่า - ชมน้องแพะและน้องกระบือภายในฟาร์ม - ภายเรือคายัก ในทะเลสาบมีสุข
ระยอง
สวนเกษตรปลูกผักปลอดสารเป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชน
แพร่
ศูนย์การเรียนรู้ตามรอยพ่อหลวง ตั้งอยู่ หมู่ที่ 3 ตำบลสรรพยา (ถนนเส้น ห้วยกรด - สรรพยา) ศูนย์การเรียนรู้ด้านเศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรผสมผสาน ขุดบ่อเลี้ยงปลา ตามแนวทางของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทั้งนี้ ยังรองรับคณะศึกษาดูงานจากหลายหน่วยงาน ประชาชน ตลอดจนผู้ที่สนใจ ติดต่อสอบถาม 081 886 2844 (นายกใหญ่) และ 082 399 0990 (แป้ง)
ชัยนาท
บ้านจำรุงเป็นหมู่บ้านเล็กๆ สมาชิกเหมือนเป็นคนครอบครัวเดียวกันทั้งหมด แต่เดิมมีลุงสำเริง ดีนาน เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง “โอท็อปโบราณ” ก่อนจะพัฒนาเป็นศูนย์โอท็อปชาวบ้าน นำสินค้าผลผลิตทางการเกษตรในชุมชนมาขาย นอกจากนี้ ยังเปิดแหล่งท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ มีรถพาชมสวน ได้ทั้งการพักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติ และความรู้จากปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงแบบชาวบ้าน ทั้งเกษตรพื้นบ้านไร้สารเคมี เกษตรธรรมชาติกองทัพมด เป็นตัวอย่างนำกลับไปใช้ได้จริง โดยเริ่มลงมือทำตั้งแต่ปีพ.ศ.2529 กระทั่งมีผลงานเป็นรูปธรรม ด้วยความร่วมมือของชาวบ้านที่เข้มแข็ง จากที่ประชุมกันในครัวเรือน กลายเป็นเครือข่ายองค์กรบ้านจำรุง ที่มีการประชุมร่วมกันทุกวันที่ 15 ของเดือน เป็นเวทีสาธารณะ หรือเวทีชาวบ้าน ที่มีทั้งเด็ก เยาวชน และคนแก่ เข้าร่วม ต่อมาปี พ.ศ.2549 จึงจัดตั้งเป็น “มหาวิทยาลัยบ้านนอก” เพื่อการเรียนรู้ของสังคม กระทั่งได้รับรางวัล “หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงอยู่เย็นเป็นสุข” จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากนั้นก็มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาศึกษาหาความรู้กันอย่างไม่ขาดสาย เป็นสิ่งที่ชาวบ้านภาคภูมิใจ
ระยอง