คำค้นยอดฮิต: ข้าวเหนียวมะม่วง ของขวัญออแกนิค ผลไม้สด
TH | EN
฿ 0.00
กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรผ้ามัดหมี่ย้อมคราม
กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรผ้ามัดหมี่ย้อมคราม ตำบลบ้านแดง อำเภอพิบูลย์รักษ์ จังหวัดอุดรธานี
Image
Image
Image
Image
สภาพอากาศวันนี้
อยู่ในเวลาปิดทำการ
วันเวลาทำการ
• วันอาทิตย์
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันจันทร์
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันอังคาร
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันพุธ
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันพฤหัสบดี
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันศุกร์
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันเสาร์
: 09:00 น. - 16:00 น.
หมายเหตุ
: -
แผนที่และพิกัดที่ตั้ง
คะแนนรีวิว
0
ความพร้อมสถานที่
0
ความคุ้มค่า
0
การให้บริการ
0
อ่านทั้งหมด >
รายละเอียด
เป็นกลุ่มแม่บ้านที่ทอผ้ามัดหมี่ย้อมครามใช้สีจากธรรมชาติ ถือเป็นสินค้า OTOP นำสิ่งที่บ้านนาข่า กรุงเทพ บ้านเชียง และทอตามที่มีออเดอร์จากลูกค้าสั่งมา จึงถือเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนตำบลบ้านแดง
ประวัติความเป็นมา
เดิมกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรดงยาง หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านแดง จัดตั้งเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2525 มีสมาชกเริ่มจัดตั้ง 27 คน ต่อมาประชากรเพิ่มขึ้น การปกครอง การดูแลเอาใจใส่ของผู้นำหมู่บ้านดูแลไม่ทั่วถึงจึงได้แยกหมู่บ้านพรพิบูลย์ออกจากบ้านดงยาง เป็นหมู่บ้านพรพิบูลย์ หมู่ที่ 15 ตำบลบ้านแดง และปัจจุบัน มีสมาชิกกลุ่มทอผ้า เพิ่มขึ้นเป็น จำนวน 75 คน มีที่ทำการกลุ่มตั้งอยู่ที่ “ศูนย์แสดงผลิตภัณฑ์ผ้ามัดหมี่ย้อมคราม” หมู่ที่ 15 ตำบลบ้านแดง อำเภอพิบูลย์รักษ์ จังหวัดอุดรธานี สมาชิกส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนา อาชีพเสริมเพิ่มรายได้ คือ หัตถกรรมสิ่งทอจากผ้าฝ้ายมัดหมี่ย้อมครามธรรมชาติ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดภูมิปัญญามาจากบรรพบุรุษหลายชั่วคน ตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ราษฎรในหมู่บ้านจะทอผ้าไว้ใช้เองในครัวเรือน โดยใช้ครามย้อมสี ทอได้จะนำไปตัดเสื้อ ใส่ไปทำนา ทำสวน ทำไร่ และเย็บเป็นผ้าถุงใส่ไปวัด ทำบุญงานประเพณีต่าง ๆ หรือใช้เป็นของฝาก ต่อมาในปี 2536 กลุ่มได้มีการริเริ่มฟื้นฟูการทอผ้าซึ่งเคยทำมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ โดยมีนายทุนจากจังหวัดหนองคาย มาให้คำแนะนะในการออกแบบลวดลายผ้า พร้อมทั้งนำแบบลายผ้าที่ทันสมัยมาสอนปละฝึกทำ พัฒนาการแต้มสีลวดลายของการมัดหมี่ จะได้ลายผ้าและมีสีสันที่สวยงามกว่าแบบดั้งเดิม และส่งผ้าที่ทอเสร็จเรียบร้อยแล้วให้นายทุนนำไปแปรรูปเป็นเสื้อผ้าสำเร็จรูป และขายเป็นผ้าชิ้น ในราคาที่สูงมาก แต่ในนามผ้าของจังหวัดหนองคาย และราษฎรบางคนทอผ้าได้ก็นำไปขายที่ตลาดนาข่า ก็จะเป็นผ้าของนาข่า ไม่มีชื่อผ้าบ้านดงยาง พิบูลย์รักษ์เลย ในปี 2541 หน่วยงานภาคราชการ สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอพิบูลย์รักษ์ สำนักงานเกษตรอำเภอพิบูลย์รักษ์ ได้เข้าไปแนะนำในเรื่องการบริหารจัดการกลุ่ม กลุ่มจึงได้มีการระดมหุ้นเพื่อเป็นกองทนในการบริหารจัดการกลุ่ม หุ้นละ 100 บาท โดยดำเนินการทอผ้าที่ใต้ถุนบ้านตนเอง เนื่องจากยังไม่มีศูนย์รวม หรือที่ทำการเป็นของกลุ่ม แต่จะมีกรรมการฝ่ายผลิต และฝ่ายควบคุมคุณภาพ ออกติดตามและให้คำแนะนำตลอดเวลา เพื่อให้ได้ผ้าที่มีคุณภาพตรงกับความต้องการของตลาด และในปี 2542 กรมส่งเสริมการเกษตร ได้สนับสนุนงบประมาณเพื่อเป็นทุนในการดำเนินงานอีก จำนวน 100,000 บาท ซึ่งในช่วงนี้เอง ทำให้สมาชิกกลุ่มทุกคนได้มีเงินทุนหมุนเวียนมากขึ้น การผลิตผ้าทอก็เพิ่มมากขึ้น จนทำให้ผ้าทอไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ก็ยังจำหน่ายให้กับพ่อค้าชาวหนองคาย และนาข่าเหมือนเดิม จนกระทั่งในปี 2543-2544 สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอพิบูลย์รักษ์ ได้เข้าไปพบปะพูดคุยกับกลุ่มทอผ้าเพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์ผ้ามัดหมี่ย้อมครามในนามของผ้าบ้านดงยาง ตำบลบ้านแดง อำเภอพิบูลย์รักษ์ ซึ่งมีนางสมร คำวิเศษ เป็นประธานกลุ่ม และในสมัยนั้นเป็นสมัยของรัฐบาลนายกทักษิณ ชินวัตร ได้จัดให้มีโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ขึ้น กลุ่มทอผ้าบ้านดงยาง จึงได้รับคัดเลือกให้เป็นสินค้า หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ของตำบลบ้านแดง อำเภอพิบูลย์รักษ์ ตั้งแต่ปี 2544 จนถึง ปี 2546 ผ้ามัดหมี่ย้อมครามบ้าน ดงยาง ก็ได้รับคัดเลือกให้เป็นผลิตภัณฑ์เด่น 1 ใน 10 ผลิตภัณฑ์เด่นของจังหวัดอุดรธานีด้วย จึงเป็นที่รู้จักของคนทั่วไดตั้งแต่นั้นมา และในขณะเดียวกันกรมส่งเสริมการเกษตร ได้สนับสนุนงบประมาณอีก จำนวน 1,350,000 บาท เพื่อสร้างอาคารศูนย์แสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในปัจจุบัน
ลักษณะเด่น
มีผ้ามัดหมี่ที่ย้อมจากธรรมชาติ จนสร้างชื่อเสียงให้กับชาวบ้านตำบลบ้านแดง และได้จัดส่งถึงบ้านเชียง นาข่า และกรุงเทพโดยส่วนมากกลุ่มแม่บ้านจะทอผ้าซิ่นโบราณ เสื่อปึกค้างคาว ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ และกระเป๋า
ที่มาข้อมูล
Thailand Tourism Directory
ข้อมูลแนะนำ
ราคาค่าเข้าชม
• ราคาค่าเข้าชม: ไม่มีค่าใช้จ่าย
• หมายเหตุ : -
รีวิว (0)
0
จาก 5.0
ความพร้อมสถานที่
ความคุ้มค่า
การให้บริการ
แนะนำแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่คล้ายกัน
ศูนยการเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ไร่นาสวนผสม การแปรรูปผลผลิตการเกษตร
ระยอง
บ้านน้อยในป่าใหญ่ ศูนย์เรียนรู้วิถีเศรษฐกิจพอเพียงซึ่งก่อตั้งโดยเกษตรกรรุ่นใหม่ไฟแรงที่ต้องการจะถ่ายทอดการทำการเกษตรแบบพอเพียง ใช้บ้านและสวนเป็นแหล่งให้คนภายนอกได้มาเรียนรู้
ชุมพร
บ้านสวนอคิราห์ เกษตรตามรอยพ่อ ได้รับการจัดตั้งเป็นศูนย์เรียนรู้โครงการอันเนื่องมาจาก พระราชดำริอำเภอปาย ซึ่งเป็นศูนย์ถ่ายทอดองค์ความรู้ในการขยายผลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
หลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมบาถบพิตร และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อไปสู่ประชาชนในพื้นที่เพื่อให้ประชาชนนำแนวคิดและหลักปฏิบัติไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านต่างๆ ดังนี้ 1. ศูนย์เรียนรู้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริอำเภอปาย 2. ศูนย์เรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน 3. ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน 4. ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) ด้านไร่นาสวนผสม ด้านปศุสัตว์ ด้านประมง 5. แปลงต้นแบบการผลิตพืชอินทรีย์ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน 6. แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ตามโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี 7. ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการพัฒนาที่ดิน ประจำตำบลแม่ฮี้ 8. ศูนย์เรียนรู้ โคก หนอง นา โมเดล บ้านสวนอคิราห์
แม่ฮ่องสอน
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวช่วยอุดหนุน หลังแวะไปเสพวิวงามๆ สูดอากาศบริสุทธิ์ ชมวิถีชีวิตชาวบ้าน ชิมอาหารท้องถิ่น แล้วยืนแอ็กท่าถ่ายรูปแบบชิลๆกับผลองุ่นสีสุดสวยแชร์ในเฟซบุ๊ก
กำแพงเพชร
ฟาร์มโคนม ไทย-เดนมาร์ค เป็นฟาร์มเลี้ยงโคนม ที่มีการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่แรกๆ ของเมืองไทย พิกัด : https://goo.gl/maps/q9b524yJcqMwBAx88
สระบุรี
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้จัดตั้งพิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 พรรษา ในปี พ.ศ. 2539 บนเนื้อที่ 500 ไร่ ณ ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
ปทุมธานี
ไร่องุ่นภูนวพันธุ์ เป็นไร่องุ่นที่มีผลิตภัณฑ์แปรรูปขององุ่นทั้ง องุ่นกวน น้ำองุ่น และอื่นๆ พิกัด : https://goo.gl/maps/XbNpXJr14r33JLNfA
สระบุรี
ไร่องุ่นคุณมาลี เป็นไร่องุ่นที่มีทั้งองุ่นสดๆ และผลิตภัณฑ์จากองุ่น หลากชนิด พิกัด : https://goo.gl/maps/yCPKN5GAqmRaeCAp7
สระบุรี
“สีเขียว” มักเยียวยาหัวใจให้สดชื่น ช่วยให้สบายตา สบายใจ ยิ่งในช่วงอากาศเย็น ๆ ของฤดูฝน “นาขั้นบันได โครงการปิดทองหลังพระ” อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน อีกปลายทางที่ไม่ควรพลาดวิวท้องนาข้าวสีเขียว ที่ปกคลุมทั้งเขาน้อยใหญ่ เป็นภาพทิวทัศน์ที่คุ้มค่าแก่การมาถึง จากทุ่งนาข้าว พักจิบกาแฟเคล้าวิวหมอก กับกาแฟเจี๊ยงลั๊วะ กาแฟอาราบิก้าคุณภาพดีแห่งหนึ่งของ จ.น่าน ก่อนมุ่งหน้า สู่อุทยานแห่งชาติขุนน่าน ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพรรณไม้ที่สวยงามในหน้าฝน
น่าน
นาข้าวขั้นบันได โครงการปิดทองหลังพระ ตั้งอยู่ใน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ เป็นโครงการตามแนวพระราชดำริจัง ซึ่งจังหวัดน่าน เป็นจังหวัดนำร่องสืบสานแนวพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยแนวทาง ของโครงการ ก็คือ เริ่มต้นด้วยการลดการใช้พื้นที่ป่า แสวงหาวิธีปลูกข้าวแบบใหม่ โดยนำวิธีการทำนาขั้นบันไดบนพื้นที่ ภูเขา แทนข้าวไร่ เพื่อแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน โดยเน้นให้ชาวบ้านคิดเอง แต่ภาครัฐจะเข้าไปให้ความรู้เพื่อหาต้นแบบที่เหมาะสม ในการแก้ปัญหาการอยู่ร่วมกันระหว่างคนกับป่าใน พื้นที่ป่าต้นน้ำ โครงการที่นี้ไม่ใช่แค่ขุดนาขั้นบันไดอย่างเดียว ยังรวมไปถึง การสร้างบ่อกักเก็บน้ำ ฝาย การปลูกถั่วเหลือง รวมไปถึงการเลี้ยงสัตว์ด้วย
น่าน
ชาวบ้านบ้านนาต้นจั่น มีวิถีชีวิตดั้งเดิม มีการทำเกษตรแบบผสมผสาน มีการทำผ้าหมักโคลนเป็นผ้าดีมีน้ำหนัก งดงามด้วยการหมักโคลนและการทอที่ซับซ้อน ชาวบ้านได้ปรับพื้นที่สำหรับกางเต็นท์ ยกแคร่ไม่ไผ่ทำเป็นที่นั่งกินข้าว ทำห้องน้ำ ส่วนที่เหลือยังคงสภาพป่าไว้ดังเดิม สันดอยแห่งนี้มีทัศนียภาพงดงาม สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้ในจุดเดียวกัน โฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่นมีประมาณ 23 หลัง แยกบ้านให้อยู่เป็น หลังหรืออยู่บ้านเดียวกับเจ้าของบ้าน ได้ดื่มด่ำไปกับธรรมชาติรอบ ที่พัก พร้อมห้องครัวอุปกรณ์ครบครัน ซื้ออาหาร ไปทำรับประทานเองสะดวกสบาย มีกิจกรรมปั่นจักรยานชมวิถีชมุชนในหมู่บ้าน ชมสวนผลไม้และท้องทุ่งพร้อมไกด์ชุมชนนำทาง ไปชมสวนผลไม้ของชาวบ้าน โปรแกรมการท่องเที่ยว : -พักโฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมดจำนวน 23 หลัง -ปั่นจักรยานชมวิถีชมุชนในหมู่บ้าน ชมสวนผลไม้และท้องทุ่ง -ชมวิธีการทำผ้าหมักโคลน การทอผ้าด้วยมือ ผ้ายกดอก และเลือกซื้อผ้าหมักโคลนตัดสำเร็จรูป -ชมวิธีการทำตุ๊กตาบาร์โหน (บ้านตาวงศ์) -ชมหัตถกรรมตอไม้ -ชมและชิมผลไม้ตามฤดูกาล ได้แก่ ทุเรียน เงาะ ลองกอง มะม่วง มะปราง มะไฟ ลำไย -จุดชมวิว “ห้วยต้นไฮ” ชมทะเลหมอกพระอาทิตย์ -ชมและทดลองการทำข้าวเปิ๊ป อาหารท้องถิ่น จิบกาแฟในกระบอกไม้ไผ่ เส้นทางเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ : - อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย อำเภอศรีสัชนาลัย 30 กิโลเมตร - ร้านทองโบราณ ร้านเงินโบราณ 30 กิโลเมตร - อุทยานแห่งชาติน้ำตกป่าคา 70 กิโลเมตร - อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย (เมืองเก่าสุโขทัย) 77 กิโลเมตร - อุทยานแห่งชาติรามคำแหง 110 กิโลเมตร
สุโขทัย
ไร่คุณมนเป็นสวนเกษตรแบบผสมผสาน สวนผักปลอดสารพิษและโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นานาชนิด อาทิ น้ำนมข้าวโพด น้ำผัก กล้วย/ขนุนอบแห้ง กระยาสารทเคลือบน้ำผัก ลูกชิ้นข้าวโพด ไอศกรีมน้ำนมข้าวโพด อาหารชีวจิตเพื่อสุขภาพ เตาเผาถ่านอิวาติ และศูนย์เรียนรู้ภูมิปัญญาไทย บนพื้นที่ 150 ไร่ ด้วยเครื่องจักรอันทันสมัย โปรแกรมการท่องเที่ยว เรียนรู้กิจกรรมตามฐานต่างๆ 1.ฐานผลิตน้ำนมข้าวโพด 2.ฐานผลิตไอศครีมน้ำนมข้าวโพด 3.ฐานเก็บข้าวโพดสดจากไร่ 4.ฐานสกัดน้ำมันงา 5.ฐานสกัดน้ำส้มควันไม้และเตาเผาถ่านอิวาเตะ 6.ฐานทำลูกประคบ 7.บ้านดิน เส้นทางเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ (พร้อมระยะทาง/กม.) สะพานข้ามแม่น้ำแคว, สุสารสัมพันธมิตร ระยะทาง 25 กิโลเมตร วัดถ้ำเสือ ระยะทาง 30 กิโลเมตร ต้นจามจุรียักษ์ ระยะทาง 30 กิโลเมตร สินค้าวิสาหกิจชุมชนในชุมชน น้ำนมข้าวโพด น้ำมันงา กล้วยอบสุญญากาศ
กาญจนบุรี