รายละเอียด
เป็นกลุ่มแม่บ้านที่ทอผ้ามัดหมี่ย้อมครามใช้สีจากธรรมชาติ ถือเป็นสินค้า OTOP นำสิ่งที่บ้านนาข่า กรุงเทพ บ้านเชียง และทอตามที่มีออเดอร์จากลูกค้าสั่งมา จึงถือเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนตำบลบ้านแดง
ประวัติความเป็นมา
เดิมกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรดงยาง หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านแดง จัดตั้งเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2525 มีสมาชกเริ่มจัดตั้ง 27 คน ต่อมาประชากรเพิ่มขึ้น การปกครอง การดูแลเอาใจใส่ของผู้นำหมู่บ้านดูแลไม่ทั่วถึงจึงได้แยกหมู่บ้านพรพิบูลย์ออกจากบ้านดงยาง เป็นหมู่บ้านพรพิบูลย์ หมู่ที่ 15 ตำบลบ้านแดง และปัจจุบัน มีสมาชิกกลุ่มทอผ้า เพิ่มขึ้นเป็น จำนวน 75 คน มีที่ทำการกลุ่มตั้งอยู่ที่ “ศูนย์แสดงผลิตภัณฑ์ผ้ามัดหมี่ย้อมคราม” หมู่ที่ 15 ตำบลบ้านแดง อำเภอพิบูลย์รักษ์ จังหวัดอุดรธานี สมาชิกส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนา อาชีพเสริมเพิ่มรายได้ คือ หัตถกรรมสิ่งทอจากผ้าฝ้ายมัดหมี่ย้อมครามธรรมชาติ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดภูมิปัญญามาจากบรรพบุรุษหลายชั่วคน ตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ราษฎรในหมู่บ้านจะทอผ้าไว้ใช้เองในครัวเรือน โดยใช้ครามย้อมสี ทอได้จะนำไปตัดเสื้อ ใส่ไปทำนา ทำสวน ทำไร่ และเย็บเป็นผ้าถุงใส่ไปวัด ทำบุญงานประเพณีต่าง ๆ หรือใช้เป็นของฝาก ต่อมาในปี 2536 กลุ่มได้มีการริเริ่มฟื้นฟูการทอผ้าซึ่งเคยทำมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ โดยมีนายทุนจากจังหวัดหนองคาย มาให้คำแนะนะในการออกแบบลวดลายผ้า พร้อมทั้งนำแบบลายผ้าที่ทันสมัยมาสอนปละฝึกทำ พัฒนาการแต้มสีลวดลายของการมัดหมี่ จะได้ลายผ้าและมีสีสันที่สวยงามกว่าแบบดั้งเดิม และส่งผ้าที่ทอเสร็จเรียบร้อยแล้วให้นายทุนนำไปแปรรูปเป็นเสื้อผ้าสำเร็จรูป และขายเป็นผ้าชิ้น ในราคาที่สูงมาก แต่ในนามผ้าของจังหวัดหนองคาย และราษฎรบางคนทอผ้าได้ก็นำไปขายที่ตลาดนาข่า ก็จะเป็นผ้าของนาข่า ไม่มีชื่อผ้าบ้านดงยาง พิบูลย์รักษ์เลย ในปี 2541 หน่วยงานภาคราชการ สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอพิบูลย์รักษ์ สำนักงานเกษตรอำเภอพิบูลย์รักษ์ ได้เข้าไปแนะนำในเรื่องการบริหารจัดการกลุ่ม กลุ่มจึงได้มีการระดมหุ้นเพื่อเป็นกองทนในการบริหารจัดการกลุ่ม หุ้นละ 100 บาท โดยดำเนินการทอผ้าที่ใต้ถุนบ้านตนเอง เนื่องจากยังไม่มีศูนย์รวม หรือที่ทำการเป็นของกลุ่ม แต่จะมีกรรมการฝ่ายผลิต และฝ่ายควบคุมคุณภาพ ออกติดตามและให้คำแนะนำตลอดเวลา เพื่อให้ได้ผ้าที่มีคุณภาพตรงกับความต้องการของตลาด และในปี 2542 กรมส่งเสริมการเกษตร ได้สนับสนุนงบประมาณเพื่อเป็นทุนในการดำเนินงานอีก จำนวน 100,000 บาท ซึ่งในช่วงนี้เอง ทำให้สมาชิกกลุ่มทุกคนได้มีเงินทุนหมุนเวียนมากขึ้น การผลิตผ้าทอก็เพิ่มมากขึ้น จนทำให้ผ้าทอไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ก็ยังจำหน่ายให้กับพ่อค้าชาวหนองคาย และนาข่าเหมือนเดิม จนกระทั่งในปี 2543-2544 สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอพิบูลย์รักษ์ ได้เข้าไปพบปะพูดคุยกับกลุ่มทอผ้าเพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์ผ้ามัดหมี่ย้อมครามในนามของผ้าบ้านดงยาง ตำบลบ้านแดง อำเภอพิบูลย์รักษ์ ซึ่งมีนางสมร คำวิเศษ เป็นประธานกลุ่ม และในสมัยนั้นเป็นสมัยของรัฐบาลนายกทักษิณ ชินวัตร ได้จัดให้มีโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ขึ้น กลุ่มทอผ้าบ้านดงยาง จึงได้รับคัดเลือกให้เป็นสินค้า หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ของตำบลบ้านแดง อำเภอพิบูลย์รักษ์ ตั้งแต่ปี 2544 จนถึง ปี 2546 ผ้ามัดหมี่ย้อมครามบ้าน ดงยาง ก็ได้รับคัดเลือกให้เป็นผลิตภัณฑ์เด่น 1 ใน 10 ผลิตภัณฑ์เด่นของจังหวัดอุดรธานีด้วย จึงเป็นที่รู้จักของคนทั่วไดตั้งแต่นั้นมา และในขณะเดียวกันกรมส่งเสริมการเกษตร ได้สนับสนุนงบประมาณอีก จำนวน 1,350,000 บาท เพื่อสร้างอาคารศูนย์แสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในปัจจุบัน
ลักษณะเด่น
มีผ้ามัดหมี่ที่ย้อมจากธรรมชาติ จนสร้างชื่อเสียงให้กับชาวบ้านตำบลบ้านแดง และได้จัดส่งถึงบ้านเชียง นาข่า และกรุงเทพโดยส่วนมากกลุ่มแม่บ้านจะทอผ้าซิ่นโบราณ เสื่อปึกค้างคาว ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ และกระเป๋า
ที่มาข้อมูล
Thailand Tourism Directory