คำค้นยอดฮิต:
ข้าวเหนียวมะม่วง
ของขวัญออแกนิค
ผลไม้สด
TH
|
EN
0
0
เข้าสู่ระบบ
฿
0.00
สินค้าเกษตรออนไลน์
แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร
ปฏิทินงานแสดงสินค้า
แหล่งผลิตสินค้าเกษตร
ตลาดชุมชน ตลาดต้องชม
แฟรนไชส์
ลงทะเบียนขาย
สินค้าเกษตรออนไลน์
แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร
ปฏิทินงานแสดงสินค้า
แหล่งผลิตสินค้าเกษตร
ตลาดชุมชน ตลาดต้องชม
แฟรนไชส์
ลงทะเบียนขาย
แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร-วิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตชาเขียวใบหม่อนถ้ำมังกรทอง
แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร-วิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตชาเขียวใบหม่อนถ้ำมังกรทอง ตำบลเกาะสำโรง อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
ข้อมูลติดต่อ
แจ้งแก้ไขข้อมูล
แชร์ :
Favorite
(0)
Like
แสดงทั้ง 4 รูป
สภาพอากาศวันนี้
อยู่ในเวลาปิดทำการ
วันเวลาทำการ
• วันอาทิตย์
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันจันทร์
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันอังคาร
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันพุธ
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันพฤหัสบดี
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันศุกร์
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันเสาร์
: 09:00 น. - 16:00 น.
หมายเหตุ
: -
แผนที่และพิกัดที่ตั้ง
ดูแผนที่ / นำทาง
คะแนนรีวิว
0
ความพร้อมสถานที่
0
ความคุ้มค่า
0
การให้บริการ
0
อ่านทั้งหมด >
รายละเอียด
วิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตชาเขียวใบหม่อนถ้ำมังกรทอง ศูนย์ผลิตชาเขียว และปลูกหม่อนอินทรีย์เพื่อส่งออก ของชุมชนถ้ำมังกรทองในจังหวัดกาญจนบุรี
ที่มาข้อมูล
Thailand Tourism Directory
ข้อมูลแนะนำ
ราคาค่าเข้าชม
• ราคาค่าเข้าชม: ไม่มีค่าใช้จ่าย
• หมายเหตุ : -
รีวิว (0)
เขียนรีวิว
0
จาก 5.0
ความพร้อมสถานที่
ความคุ้มค่า
การให้บริการ
แนะนำแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่คล้ายกัน
ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยสุพรรณบุรี
ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยสุพรรณบุรี เป็นวิสาหกิจชุมชนเกษตรพอเพียง อนุรักษ์พันธุ์กล้วยหายากในประเทศไทย ได้รวมสายพันธุ์กล้วยมากมายถึง 108 ชนิด โดยเฉพาะของสุพรรณบุรีเอง
สุพรรณบุรี
ท่องเที่ยวเชิงเกษตร บ้านเศรษฐกิจพอเพียงตามรอยเท้าพ่อ อำเภอ หลังสวน จังหวัดชุมพร
บ้านเศรษฐกิจพอเพียงตามรอยเท้าพ่อเป็นฐานการเรียนรู้เกี่ยวกับเกษตรทฤษฎีใหม่ ภายในบ้านเป็นสวนผสม ปลูกพืชผักเพื่อบริโภคในครอบครัว โดยยึดแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงเป็นแนวทางการดำเนินชีวิต และครูยังเป็นต้นแบบในการปลูกข้าวไรซ์เบอรี่ในถังพลาสติก จำนวน 400 ถัง และเมื่อเก็บเกี่ยวแล้วจะได้ข้าวเปลือกประมาณกว่า 20 ถัง ซึ่งเพียงพอสำหรับการบริโภคภายในครอบครัวได้ทั้งปี ต่อมาได้มีชาวบ้าน และชาวต่างชาติรู้ข่าวจึงได้มาดู และขอดูถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก และได้เป็นวิทยากรให้ความรู้เรื่องการทำการเกษตรตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงให้กับนักเรียนนักศึกษาและผู้ที่สนใจอีกด้วย
ชุมพร
วิสาหกิจชุมชนกลุ่มปลูกไม้ผลเกษตรเชิงท่องเที่ยวบ้านซับป่าพลูใหม่
- ชมสวน ทานผลไม้ เช่น ทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง - กิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แนวเขตกันชนห้วยขาแข้ง - เส้นทางศึกษาธรรมชาติ โปรแกรมการท่องเที่ยว: 1. ชมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรแบบผสมผสาน เช่น สวนมะเดื่อฝรั่ง มะนาววงบ่อ ผลหม่อนกินสด 2. ชมสวน ทานผลไม้ ที่มีคุณภาพ เช่น ทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง 3. ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แนวเขตกันชนห้วยขาแข้ง 4. กางเตนท์เพื่อพักผ่อนบริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำวิ่ง บริเวณแนวเขตกันชนห้วยขาแข้ง เส้นทางเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ : - สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์หลวงพ่อเสมา ณ.วัดป่าสักซึ่งเป็นพระคู่บ้านประจำอำเภอลานสัก ระยะทาง 5 กม. -เที่ยวชมอุทยานแห่งชาติห้วยขาแข้ง ระยะทาง 12 กม. -หุบป่าตาด ระยะทาง 10 กม -น้ำพุร้อนสมอทอง ระยะทาง 12 กม.
อุทัยธานี
หมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงเกษตรบ้านซำขี้เหล็ก
บ้านซำขี้เหล็ก เดิมเป็นพื้นที่ปลูกพืชไร่ ได้แก่ ข้าวโพด มันสำปะหลัง เป็นต้น (คำว่า "ซำ" แปลได้ว่าเป็นพื้นที่ซับน้ำ หรือชำน้ำ) บุคคลที่เข้ามาบุกเบิกในระยะแรกๆ เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2510-2512 เป็นชาวจังหวัดยโสธรเข้ามาจับจองที่ดินช่วงแรกยังคงปลูกข้าวโพดและมันสำปะหลัง ต่อมาประมาณปี พ.ศ. 2530-2535 มีชาวบ้านที่ไปประกอบอาชีพรับจ้างทางภาคตะวันออกแถวจังหวัดจันทบุรี ระยอง และตราด ได้นำความรู้เกี่ยวกับการปลูกยางพารา ไม้ผล เช่น เงาะ ทุเรียน และไม้ผลอื่นๆ กลับมาทดลองปลูกในพื้นที่ของตนเอง ปรากฏว่ามีการเจริญเติบโตดีและให้ผลผลิตที่ดี ในส่วนของผลไม้มีรสชาติที่แตกต่างจากทางภาคตะวันออกของไทย และผลผลิตที่ออกก็ไม่ตรงกับภาคอื่นๆ ในปัจจุบันมีการขยายพี้นที่การปลูกเงาะ ทุเรียน และยางพารา ประชากรส่วนใหญ่ของบ้านซำขี้เหล็กประกอบอาชีพการเกษตร งานประเพณีที่สำคัญ ได้แก่ งานบุญเดือนสี่ ประเพณีบุญพเวส งานวันสารทลาว (ไหว้บรรพบรุษ)
ศรีสะเกษ
สวนองุ่นสิริวัฒน์
สวนองุ่นสิริวัฒน์ เป็นไร่ที่มีองุ่นตลอดทั้งปี และสามารถเข้าชมสวนได้ พิกัด : https://goo.gl/maps/MH6JzZuwGFrjHeK76
สระบุรี
สวนกำนันพงษ์
เป็นสวนผลไม้ที่มีความสวยงามในสภาพพื้นที่ ความร่มรื่น ความเป็นเอกลักษณ์ในรสชาติของผลไม้ไม่ว่าจะเป็นทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง ที่เจ้าของสวนเน้นย้ำเป็นหนักหนาว่าที่นี่แหละผลไม้คุณภาพ กินได้ทุกลูก เรียกว่าปลอดภัยในระดับ GAP โดยนำระบบการทำการเกษตรที่ดีมีคุณภาพ เข้ามาใช้ในการผลิต ซึ่งระบบ GAP นี้เองช่วยให้ผลผลิตมีคุณภาพมากขึ้น และปลอดภัยต่อผู้บริโภครวมทั้งตัวเกษตรกรเอง เพราะระบบ GAP มีการควบคุมการใช้สารเคมีให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค เพราะฉะนั้นผู้บริโภคหรือนักท่องเที่ยวสบายใจได้ว่าปลอดภัยหายห่วง
ระยอง
จุดชมวิวเนินสวรรค์ อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์
จุดชมวิวเนินสวรรค์ เป็นบริเวรที่ตั้งสำนักงานและแปรรูปเหมืองตะกั่ว ที่ส่งไปขายยังต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันเหมืองแร่ดังกล่าวหมดสัมปทานไปแล้ว เป็นเวลากว่าสิบปี ปัจจุบันเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ได้ตั้งเป็นจุดตรวจสกัด และดูแลบริเวณสำนักงานเหมืองเก่า ที่ตั้งจุดตรวจนี้ เป็นพื้นที่สูงสามารถมองเห็นพื้นที่ด้านล่างได้สวยงาม หน้าหนาวจะมองเห็นเป็นทะเลหมอกในพื้นที่หมู่ที่ ๒ ทั้งหมู่บ้าน ช่วงกลางวันจะมองเห็นหมู่บ้านป่าไม้สะพานลาวที่สวยงาม รอบบริเวณจุดชมวิว สามารถเป็นที่กางเต็นท์ได้มากกว่า ๕๐ เต็นท์ ด้วยสภาพอากาศที่หนาวเย็น สามารถชมแสงเดือน แสงดาว ในยามค่ำคืนได้
กาญจนบุรี
ท่องเที่ยวเชิงเกษตรและวัฒนธรรมบ้านวังหว้า
บุบเฟ่ต์ผลไม้ การทำกะราง ข้าวตังพื้นบ้าน การสานเสื่อคล้า รำตัดเด็ก
ระยอง
วนเกษตร (บ้านศานติธรรม) ศูนย์ศึกษาพัฒนาการสังคมหมู่บ้าน
ศูนย์ศึกษาพัฒนาการสังคมหมู่บ้าน(วนเกษตร) หรือ บ้านศานติธรรม ภายในอาณาบริเวณเกือบ 10 ไร่ มีพันะุ์ไม้กว่า 700-800 ชนิด เป็นสมุนไพรรักษาโรคต่างๆ ภายในมีเรือนไม้แบบไทยมุงด้วยกระเบื้องว่าว ใต้ถุนสูงสำหรับประชุมหรือบรรยาย ชั้นบนใช้เก็บและแสดงเครื่องมือเครื่องใช้พื้นบ้านวัตถุโบราณ ของใช้รุ่นเก่าต่างๆ ด้านหลังบ้านมียุ้งข้าวจำลองและอุปกรณ์นวดข้าว สีข้าว บริเวณบ้านส่วนหนึ่งจัดไว้เป็นที่สำหรับตั้งค่ายพักแรมสำหรับเยาวชน มีลานสันทนาการ และบริเวณทำกิจกรรม สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คุณวิบูลย์ เข็มเฉลิม
ฉะเชิงเทรา
สวนองุ่นแวงเดอร์เรย์
สวนองุ่นแวงเดอร์เรย์ (Vin De Ray) เป็นสวนองุ่นที่คัดสรรพันธุ์องุ่นสำหรับการผลิตไวน์โดยเฉพาะ พิกัด : https://goo.gl/maps/TAiSBmBywwVD5ek86
สระบุรี
“ท่องเที่ยววิถีเกษตร ในพื้นที่โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จังหวัดชุมพร”
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชมาเป็นเวลานาน ก่อนคำว่า “ความหลากหลายทางชีวภาพ (BIOLOAGICAL DIVERSITY)”และอนุรักษ์ (COUSERVATION) จะเป็นที่รู้จักกันดีในประเทศไทย จากการเสด็จแปรพระราชฐานไปประทับ ณ วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในปี พ.ศ. 2503 เมื่อเสด็จผ่านอำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ทอดพระเนตรเห็น ต้นยางนาขนาดใหญ่ขึ้นเป็นจำนวนมาก ทรงมีพระราชทานให้เก็บเมล็ดพันธุ์ยางนาไปเพาะที่ตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน และนำต้นยางนาที่เพาะได้ นำมาปลูก ในสวนจิตรลดา เพื่อเป็นแหล่งศึกษา ต่อมาในปี พ.ศ. 2528 ทรงมีพระราชทานพระราชดำริให้ทำการอนุรักษ์ต้นขนุนในพระบรมมหาราชวัง และได้ดำเนินโครงการอนุรักษ์พรรณไม้ ในพระราชวังต่างๆ โดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ต่อมาในปี พ.ศ. 2529 ทรงมีพระราชดำริให้มีการอนุรักษ์ และขยายพันธุ์หวายรวมทั้งดำเนินการจัดสร้างสวนสมุนไพรในโครงการสวนพระองค์ ฯ สวนจิตรลดา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามพระบรมราชกุมารี ทรงสืบต่องานอนุรักษ์พันธุกรรมพืชโดยทรงมีพระราชดำริกับท่านเลขาธิการพระราชวัง ให้มีการดำเนินการอนุรักษ์พืชพรรณของประเทศ ในเดือน มิถุนายน 2535 ซึ่งมีโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ได้จัดสร้างธนาคารพืชพรรณสำหรับเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์โดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อรวมทั้งการศึกษาที่มิใช่พืชเศรษฐกิจให้มีการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชโดยนำพระราชดำริ มาเป็นกรอบในการดำเนินการ เมื่อปี พ.ศ. 2536 นายสุจินต์ ภูนิคม กำนันตำบลสลุย อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร และคณะได้ประสานงานหารือกับผู้อำนวยการบริษัทอุลตร้าโปรดักส์ จำกัด และเกษตรกรจังหวัดชุมพรในการนำพื้นที่สาธารณะประโยชน์ซึ่งตั้ง ณ หมู่ที่ 6 ตำบลสลุย (ปัจจุบัน หมู่ที่ 5,6 ตำบลสลุย และ หมู่ที่ 4 ,7 ตำบลสองพี่น้อง) เพื่อจัดทำโครงการอนุรักษ์พันธุ์ไม้ ซึ่งขณะนั้น โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดาก็กำลังจัดหาพื้นที่เพื่อจัดทำโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ต่อมาทางโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา โดยศาสตราจารย์พิเศษประชิด วามานนท์ (ที่ปรึกษาโครงการส่วนพระองค์) พร้อมคณะได้เดินทางมาพบผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร (นายประยูร พรหมพันธุ์) เพื่อปรึกษาหารือในการจัดทำโครงการโดยใน ระยะ 5 ปี แรกได้ใช้ ชื่อโครงการว่า “โครงการอนุรักษ์พันธุ์ไม้และพิพัฒน์พรรณไม้ ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จังหวัดชุมพร” โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดชุมพร จึงได้ทำโครงการเสนอความเห็นชอบจากผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรและได้จัดส่งเอกสารโครงการไปยังผู้อำนวยการโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา เพื่อโปรดนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองพระบาทในโอกาสอันสมควรและทางโครงการส่วนพระองค์ได้แจ้งตอบรับ เรื่องการนำโครงการอนุรักษ์พันธุไม้และพิพัฒน์พรรณพืชฯ จังหวัดชุมพร ทราบฝ่าละอองพระบาท เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2536 และในการดำเนินโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดาได้ผนวกโครงการอนุรักษ์พันธุ์ไม้ และพิพัฒน์พรรณพืชของจังหวัดชุมพร เข้ากับโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริในส่วนกลางมีดร.พิศิษฐ์ วรอุไร เป็นประธานคณะกรรมการ และจากการประชุมกรรมการ เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2540 ที่ประชุมมีมติเปลี่ยนชื่อโครงการอนุรักษ์พันธุ์ไม้และพิพัฒน์พรรณพืช ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จังหวัดชุมพร เป็นชื่อ “โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จังหวัดชุมพร”
ชุมพร
ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร จังหวัดเชียงราย (เกษตรที่สูง) สาขาดอยผาหม่น
แปลงเรียนรู้ไม้ดอกเมืองหนาว - กล้วยไม้ซิมบิเดียมตัดดอก - แปลงทิวลิป แปลงเรียนรู้ไม้หอม - โรสแมรี่ - เจอราเนียม แปลงเรียนรู้การปลูกพืชเชิงอนุรักษ์บนพื้นที่สูง - อะโวคาโด - กาแฟอาราบิก้า - แมคคาเดเมีย รูปแบบวิธีการจัดกิจกรรม - มีจุดถ่ายรูป ลานจอดรถ ห้องน้ำ ให้บริการ - เดินชมแปลงเรียนรู้ (ไม้ดอก , ไม้หอม , พืชอนุรักษ์) พร้อมเรียนรู้การเพาะขยายพันธุ์ และการปลูก/ดูแลรักษา - มีจุดจำหน่ายสินค้าชุมชน ผลิตภัณฑ์, พืชผัก, ไม้ผล, พืชไร่ - มีบริการเครื่องดื่ม กาแฟ ชาเจียวกูหลาน - มีบริการบ้านพัก / จุดกางเต้นท์ การมีส่วนร่วมของนักท่องเที่ยว - ชม ชิม ช้อป สินค้าชุมชน ผลิตภัณฑ์กระเป๋า ของที่ระลึก สินค้าเกษตร ไม้ผลเมืองหนาว พืชไร่ พืชผักตามฤดูกาล - ถ่ายรูป เช็คอิน แปลงไม้ดอก/ทิวลิป - เดินชมแปลงเรียนรู้ภายในศูนย์ฯ - ดื่มด่ำบรรยากาศทะเลหมอกในฤดูหนาวของจังหวัดเชียงราย โปรแกรมการท่องเที่ยว: โปรแกรม 2 วัน 1 คืน วันที่หนึง 09.30 ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวง เชียงราย เดินทางสู่ไร่เชิญตะวัน 10.00 แวะรับทานอาหารเช้า ณ ร้าน “ภูเทียนรีสอร์ท” / “จุ๋ยกุ้งเผา” 11.00 ไร่เชิญตะวัน ศึกษาธรรมะกับแนวคิดมหาวิชชาลัยพุทธเศรษฐศาสตร์ (สถาบันการศึกษาทางเลือก เพื่อการพัฒนาตามปรัชญาพุทธเศรษฐศาสตร์) เกษตรธรรมชาติแบบครบวงจร 12.00 ออกเดินทางจากไร่เชิญตะวัน แวะรับประทานอาหาร ณ ร้าน “ลานนาตะวันวา” 13.00 ชมการสาธิตการคั่วชาอัสสัมและการทำเมี่ยง แบบดั่งเดิมโดยชุมชนเกษตรกรวิสาหกิจชุมชนผลิตชาแม่ลอย 14.00 ออกเดินทางจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตชาแม่ลอย สู่ไร่รื่นรมย์ ต.งิ้ว อ.เทิง 14.30 ชมความงดงามของฟาร์มออแกนิคโดยคนรุ่นใหม่ รับประทานอาหารว่าง จากไร่จากแปลงเกษตรอินทรีย์โดยตรงเพื่อสุขภาพเรียนรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ ทั้งหลักการและการลงมือทำ 15.00 ออกเดินทางจากไร่รื่นรมย์ สู่ศูนย์ฯ ดอยผาหม่น 17.00 รับประทานอาหารค่ำแบบชนเผ่า ปิ้งย่าง กิจกรรมรอบกองไฟ พร้อมชมการแสดงจากกลุ่มยุวเกษตรกรชาติพันธุ์ ศิลปวัฒนธรรมชนเผ่าจากชุมชน ท่ามกลางธรรมชาติและอาทิตย์อัสดง วันที่สอง 04.30 ตื่นนอน ทำภารกิจส่วนตัว 05.00 เดินทางสู่ยอดภูชี้ฟ้า ชื่นชมทัศนียภาพอันงดงามตามธรรมชาติ ขุนเขาและทะเลหมอก 06.00 เดินทางกลับสู่ ศูนย์ฯ ดอยผาหม่น 07.00 รับประทานอาหารเช้า 08.00 รื่นเริงกับกิจกรรมทางการเกษตรของศูนย์ฯ ดอยผาหม่น ชมแปลงไม้หอม ดอกทิวลิป ชมความงดงามของแปลง ซิมบีเดียม และแปลงเรียนรู้การปลูกกาแฟ อโวคาโด และแมคคาเดเมีย ชิมกาแฟสด คุณภาพสูงจากเกษตรกรผู้ผลิต 12.00 พักรับทานอาหารกลางวัน 13.00 เดินทางสู่กลุ่มผู้ผลิตกาแฟอินทรีย์บ้านบ้านพิทักษ์ไทย 13.30 เดินชมแปลงกาแฟอินทรีย์กลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตกาแฟอินทรีย์บ้านพิทักษ์ไทย ร่วมศึกษากรรมวิธีการปลูกกาแฟอินทรีย์คุณภาพดี ซื้อสินค้าที่ระลึกจากชุมชนชาติพันธุ์ 14.30 เดินทางสู่หอนาฬิกาจังหวัดเชียงราย แลนด์มาร์คที่สำคัญของจังหวัดเชียงราย 16.00 ซื้อผลิตภัณฑ์ชุมชน อาหารพื้นเมือง ของฝาก ของที่ระลึก เส้นทางเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ: 1) ภูชี้ฟ้า ต.ตับเต่า อ.เทิง ระยะทาง 11 ก.ม 2) ผาตั้ง ต.ปอ อ.เวียงแก่น ระยะทาง 36 ก.ม 3) ดอยชมดาว ต.ตับเต่า อ.เทิง ระยะทาง 6 ก.ม
เชียงราย
MOC Agri mart ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานของคุณ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ