คำค้นยอดฮิต: ข้าวเหนียวมะม่วง ของขวัญออแกนิค ผลไม้สด
TH | EN
฿ 0.00
ศูนย์เรียนรู้ป่าวังจันทร์
ศูนย์เรียนรู้ป่าวังจันทร์ หมู่1 ตำบลป่ายุบใน อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง 21210
Image
Image
Image
Image
สภาพอากาศวันนี้
เปิดทำการ
วันเวลาทำการ
• วันอาทิตย์
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันจันทร์
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันอังคาร
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันพุธ
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันพฤหัสบดี
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันศุกร์
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันเสาร์
: 09:00 น. - 16:00 น.
หมายเหตุ
: -
แผนที่และพิกัดที่ตั้ง
คะแนนรีวิว
0
ความพร้อมสถานที่
0
ความคุ้มค่า
0
การให้บริการ
0
อ่านทั้งหมด >
รายละเอียด
“ศูนย์เรียนรู้ป่าวังจันทร์” ภายใต้แนวคิดการพัฒนาศูนย์เรียนรู้ด้านการจัดการป่าครบวงจร เป็นพื้นที่สาธิตการปลูกป่าและวิจัยการฟื้นฟูป่าหลากหลายรูปแบบ เป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์ไม้ท้องถิ่นภาคตะวันออกและพันธุ์ไม้หายากของไทย รวมถึงเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้เรื่องการปลูกป่าและระบบนิเวศป่าไม้ ให้แก่นิสิต นักศึกษา นักเรียน และประชาชนผู้สนใจ อีกทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศแห่งใหม่ที่สำคัญของภาคตะวันออก โดยศูนย์เรียนรู้ป่าวังจันทร์ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเปิดศูนย์ฯเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม 2558 และได้เปิดให้บริการแก่ประชาชนตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ประวัติความเป็นมา
“ศูนย์การเรียนรู้ป่าวังจันทร์” เป็นสถาบันปลูกป่าของ ปตท. ตั้งอยู่ในพื้นที่ของตำบลป่ายุบ อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง ได้ถือกำเนิดขึ้นภายใต้ชื่อโครงการเดิมคือ “โครงการพัฒนาการใช้ประโยชน์ที่ดินของ ปตท. อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง” เริ่มดำเนินงานตั้งแต่ปีพ.ศ. 2537 เป็นต้นมา จุดประสงค์ของการจัดตั้งโครงการนั้นคือการพัฒนาพื้นที่บางส่วนให้เป็นสถาบันอุดมศึกษา และโรงเรียนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อให้ศูนย์เรียนรู้ป่าวังจันทร์นั้นเป็นสถานที่ในการรวบรวมองค์ความรู้ พัฒนางานวิจัยด้านการปลูก และการจัดการป่าไม้ ที่ได้ดำเนินงานอย่างต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลามากกว่า 20 ปี โดยปัจจุบันนั้นนับเป็นอีกหนึ่งศูนย์การเรียนรู้เชิงอนุรักษ์ที่มีส่วนร่วมในการช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในจังหวัดระยองเป็นอย่างมาก
ลักษณะเด่น
นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพ และดื่มด่ำกับบรรยากาศของธรรมชาติ วัฒนธรรม พร้อมกับได้รับความรู้ ความเข้าใจที่เกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมในพื้นที่แล้ว ผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์นั้นจะสามารถนำข้อมูลที่ได้จากการศึกษาวิจัยสภาพแวดล้อม และระบบนิเวศในบริเวณนั้นไปเป็นประโยชน์ต่ออาชีพหรืองานวิจัยต่างๆ ได้ด้วย
ที่มาข้อมูล
Thailand Tourism Directory
ข้อมูลแนะนำ
ราคาค่าเข้าชม
• ราคาค่าเข้าชม: ไม่มีค่าใช้จ่าย
• หมายเหตุ : -
รีวิว (0)
0
จาก 5.0
ความพร้อมสถานที่
ความคุ้มค่า
การให้บริการ
แนะนำแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่คล้ายกัน
กลุ่มท่องเที่ยวเชิงเกษตรอำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ประกอบไปด้วยสวนเกษตรอินทรีย์ 6 สวนดังนี้ - สวนจันทร์ชื่น ตั้งอยู่ที่ 8 ม.8 ต.แสนสุข อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เอกลักษณ์ของสวนจะมีการทำบ่อปลาร่วมกับเกษตรอินทรีย์ผสมผสาน เช่น มะพร้าวน้ำหอม ,กล้วยหอมทอง,เตยหอม,และผลไม้อื่นๆอีกมากมาย - สวนสละอุบล(สละอินโด) ตั้งอยู่ที่ 162 ม.10 ต.คำขวาง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เอกลักษณ์ของสวนจะเป็นการทำเกษตรอินทรีย์แบบผสมผสาน เช่น สละอินโด กล้วยสายพันธุ์ต่างๆ มะละกอหลากหลายสายพันธุ์ ไม้ประดับนกน้อยนำโชคและใบไม้สีทอง - บ้านกะสวน ตั้งอยู่ที่ 235 ม.10 ต.ธาตุ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เอกลักษณ์ของสวนจะเป็นการทำเกษตรอินทรีย์ผสมผสาน เช่น มัลเบอร์รี่ ,มะเดื่อฝรั่ง,หญ้าหวาน และพืชผัก ผลไม้อีกหลากหลายสายพันธุ์ จุดเด่นจะมีผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากผลผลิตภายในสวน - นิรมลฟาร์มม้า ตั้งอยู่ที่ 227 ม.1 ต.คำขวาง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เอกลักษณ์ของสวนจะอยู่ที่เป็นฟาร์มม้า มีม้าหลากหลายสายพันธุ์มีรถม้า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์อดีตของอำเภอวารินชำราบ มีสนามสำหรับขี่ม้า และมีการทำเกษตรอินทรีย์แบบผสมผสาน - สวนลิ้นจี่สุวรรณกูฎ ตั้งอยู่ที่ 86 ม. 8 ตำบลธาตุ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เอกลักษณ์ของสวนจะเป็นสวนผลไม้อินทรีย์ผสมผสาน เช่น ลิ้นจี่ ,แก้วมังกร ,ฟาร์มเห็ด ,กล้วย ,มังคุด ,ขนุน ,ทุเรียน โดยในสวนจะมีร้านกาแฟและอาหารที่นำผลผลิตจากภายในส่วนมาเป็นวัตถุดิบในการทำอาหาร - สวนรัชภูโต ตั้งอยู่ที่ 59 ม.10 ต.แสนสุข อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เอกลักษณ์ของสวน จะเป็นการทำสวนเกษตรอินทรีย์ผสมผสาน เช่น มะเม่า ,กล้วยหอมคาเวนดิช ,มะละกอ พืช ผักอินทรีย์ จุดเด่นจะเป็นสถานที่เรียนรู้ระบบธนาคารน้ำใต้ดิน โปรแกรมการท่องเที่ยว: โปรแกรมท่องเที่ยว 2 วัน 1 คืน ราคา 990/คน (30 คน) รูปแบบกิจกรรม ของกลุ่มท่องเที่ยวเชิงเกษตรและแปรรูปผักผลไม้อินทรีย์ วันที่ 1 9:00-11:00 สวนรัชภูโต  ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยพวงมาลัยดอกไม้  เดินชมสวนเกษตรผสมผสาน  เรียนรู้ระบบธนาคารน้ำใต้ดิน  เบรก ด้วยผลิตภัณฑ์จากสวน  กิจกรรมเพาะปลูกพืชผัก นำพืชผักที่เพาะปลูกกลับได้ด้วย 11:30-13:30 สวนสละอุบลสละอินโด  รับประทานอาหารเที่ยง อาหารพื้นบ้าน (ข้าวป่า)  เดินชมสวน /ผลไม้ตามฤดูกาล  เรียนรู้การตอนมะละกอ  กิจกรรม เพาะสละอินโด รับต้นไม้ที่เพาะกลับได้ด้วย 14:00-16:00 บ้านกะสวน  เดินชมสวนเก็บผลไม้ทำกิจกรรม  เบรก ด้วยผลิตภัณฑ์จากสวน  เรียนรู้พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ  กิจกรรมแปรรูป มัลเบอร์รี่,มะเดื่อฝรั่ง,หญ้าหวาน  แนะนำผลิตภัณฑ์ของกลุ่มและรับของฝากจากสวน 16:30-18:00 นิรมลฟาร์มม้า  ขี่รถม้า จากบ้านกะสวน ไปยัง นิรมลฟาร์มม้า  ขี่ม้า/เดินชมสวนเกษตรผสมผสาน  เรียนรู้การขี่ม้าเบื้องต้น  กิจกรรมร่วมกับม้า การขี่ม้า,บังคับม้า,ถ่ายภาพกับม้า,อาบน้ำม้า ,โชว์ม้าแสนรู้ สถานที่พักค้าคืน นิรมลฟาร์มม้า หรือ สวนลิ้นจี่สุวรรณกูฏ 19:00-22:00 นิรมลฟาร์มม้า (กางเต้นท์นอน สไตล์คาวบอย) หรือ สวนลิ้นจี่สุวรรณกูฏ  รับประทานอาหารเย็น  รำบายศรี ,การแสดงชุมชน  กิจกรรมนันทนาการ วันที่ 2 7:00 – 8:30 นิรมลฟาร์มม้า หรือ สวนลิ้นจี่สุวรรณกูฏ  ตักบาตร ,ฟังธรรม  รับประทานอาหารเช้า 9:00-11:00 สวนลิ้นจี่สุวรรณกูฏ  เดินชมสวนลิ้นจี่,แก้วมังกร/ผลไม้ตามฤดูกาล  เบรก ด้วยผลิตภัณฑ์จากสวน  เรียนรู้การเพาะเห็ดนางฟ้า  กิจกรรมฟาร์มเห็ด นำก้อนเห็ดกลับได้ด้วย 11:30-13:30 สวนจันทร์ชื่น  เดินชมสวน/ผลไม้ตามฤดูกาล/ให้อาหารปลา  เรียนรู้การทำปุ๋ยหมักไม่กลับกอง  กิจกรรมเพาะชำต้นไม้ นำต้นไม้ที่เพาะชำกลับได้ด้วย  รับประทานอาหารเที่ยง เส้นทางเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ: - วัดหนองป่าพง (หลวงปูชา) 12 กิโลเมตร - ฟาร์มฮัก ป.อุบล 15 กิโลเมตร - ทุ่งหนองหญ้าม้า 5 กิโลเมตร - สวนไม้ดอกไม้ประดับบ้านตาติด 15 กิโลเมตร - หาดคูเดื่อ 15 กิโลเมตร - ท่องเที่ยวชุมชนใกล้เคียง(จักรยาน) แปลงผัก,แปลงดอกไม้,ฟาร์มเลี้ยงหนูนา,วัดคำขวาง,บ้านสมุนไพร
อุบลราชธานี
ชมผลิตภัณฑ์ชุมชนบ้านดงน้อย สัมผัสวิถีชีวิตวัฒนธรรมของชาวนครจำปาศรี ณ ชุมชนบ้านดงน้อย หมู่ที่ 4 ตำบลพระธาตุ อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม มาเลือกชมและซื้อผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากผ้าทอมือ กระเป๋าแปรรูป ผ้าตุ๊กตาของที่ระลึกจากไม้ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้ที่ร้านค้าชุมชนบ้านดงน้อย และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ตั้งอยู่ใกล้ๆ หมู่บ้าน นั่นคือ พระบรมธาตุนาดูน ที่เปรียบเสมือนพุทธมณฑลแห่งอีสานแห่งอารยธรรมโบราณแห่งหนึ่งที่มีประวัติอันยาวนานของเมืองนครจัมปาศรีค่า ที่ตั้ง : บ้านดงน้อย หมู่ที่ 4 ตำบลพระธาตุ อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม
มหาสารคาม
เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร แหล่งเรียนรู้การลดต้นทุนการผลิตสูง จากการใช้ปุ๋ยเคมี และสารเคมีมาก ทำให้สุขภาพทรุดโทรม เกิดโรคภัยกับชีวิตมนุษย์ จึงปรับเปลี่ยนแนวคิดปรับปรุงคุณภาพผลผลิต และลดต้นทุนการผลิตโดยการป้องกันกำจัดศัตรูพืชแบบผสมผสาน
ชัยนาท
แปลงเกษตรการเรียนรู้ของศูนย์ส่งเสริมเยาวชนเกษตรอาเซียน จ.กาญจนบุรี ได้รับการปรับปรุงและพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ภายใต้ชื่อ “FYPC Garden” โดยภายในมีจุดเรียนรู้ทั้งหมด 7 จุด ที่พร้อมให้บริการประชาชนที่สนใจ ได้แก่ 1.แปลงเรียนรู้ไม้ดอกไม้ประดับ 2.จุดเรียนรู้การเลี้ยงจิ้งหรีด 3.แปลงเรียนรู้สมุนไพร 4.บ้านเกษตรสมบูรณ์ 5.แปลงรวบรวมพันธุ์กล้วย 6.แปลงเรียนรู้ผักอินทรีย์พื้นบ้าน 7.จุดเรียนรู้การเลี้ยงชันโรง และปลูกต้นทานตะวันในพื้นที่แปลงเรียนรู้ เพื่อความสวยงามและเป็นจุดถ่ายภาพให้กับประชาชนที่เข้ามาใช้บริการ
กาญจนบุรี
สวนผลไม้ที่ร่มรื่น ได้เห็นต้นทุเรียน, ต้นมังคุด ฯลฯ ที่หลายคนไม่เคยได้เห็นมาก่อน มีผลไม้สดๆ จากสวนให้เลือกซื้อกันด้วย อีกอย่างสวนนี้มีเงาะเขียวขายด้วยนะ เค้าบอกว่าอร่อยมาก พิกัด https://goo.gl/maps/GXxffNrXUqdwF7sx5
สระบุรี
ชมสวนผลไม้ ชิมผลไม้สดจากสวน เเละจำหน่ายผลไม้คุณภาพ
ระยอง
ผลิตและจำหน่าย ผักปลอดสารพิษ มากกว่า 50ชนิด และยังเปิดให้ความรู้สำหรับผู้ที่สนใจปลูกผัก นอกจากผักสดแล้วยังมีกาแฟสด อุปกรณ์เพาะปลูกขายด้วย ไม่ว่าจะเป็น เมล็ดพันธุ์ ดินเพาะ ดินปลูก ถาด กระถาง รวมถึงฮอร์โมนนมสด
สระบุรี
สถานีวิจัยและฝึกอบรมที่สูง ใช้เป็นแปลงเพื่อศึกษาทดลองเกี่ยวกับพืช เป็นสถานที่ฝึกงานนักศึกษาทั้งในและนอกสถาบัน และ เป็นที่ศึกษาธรรมชาติ ให้แก่บุคคลผู้สนใจทั่วไป
เชียงใหม่
บ้านน้อยในป่าใหญ่ ศูนย์เรียนรู้วิถีเศรษฐกิจพอเพียงซึ่งก่อตั้งโดยเกษตรกรรุ่นใหม่ไฟแรงที่ต้องการจะถ่ายทอดการทำการเกษตรแบบพอเพียง ใช้บ้านและสวนเป็นแหล่งให้คนภายนอกได้มาเรียนรู้
ชุมพร
ผ้าไทย ถือเป็นหัตถกรรมและหัตถศิลป์มรดกอันล้ำค่าของเมืองไทย มีความงดงามของเส้นไหมที่เป็นเอกลักษณ์ลวดลายที่บ่งบอกถึงความเป็นไทย ทำให้เป็นผ้าไหมไทยได้รับความนิยม และโด่งดังไปทั่วโลกในอดีตผ้าไหมไทยถูกนำมาใช้ในหมู่สมาชิกของราชวงศ์ และข้าราชการเท่านั้น แต่ในยุคปัจจุบันผ้าไหมไทยก็เป็นที่นิยมในวงการแฟชั่น วงสังคมชั้นสูง และประชาชนทั่วไป เช่นกัน ผ้าไหมไทยเป็นผ้าที่นิยมใช้ในชุดแต่งงาน, ชุดไทย, ชุดไทยออกงานสำหรับสวมใส่ในงานปาร์ตี้ งานบุญ
ลำพูน
ท่องเที่ยวแบบภูมิปัญญาชาวบ้านที่มีในชุมชนเป็นศูนย์เรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
อุบลราชธานี
เรียนรู้การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ และจำหน่ายผักไฮโดรโปนิกส์
ระยอง