คำค้นยอดฮิต: ข้าวเหนียวมะม่วง ของขวัญออแกนิค ผลไม้สด
TH | EN
฿ 0.00
กลุ่มเลี้ยงผึ้งบ้านปากแพรก
กลุ่มเลี้ยงผึ้งบ้านปากแพรก ตำบลละหาร อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง
Image
Image
Image
Image
สภาพอากาศวันนี้
เปิดทำการ
วันเวลาทำการ
• วันอาทิตย์
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันจันทร์
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันอังคาร
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันพุธ
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันพฤหัสบดี
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันศุกร์
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันเสาร์
: 09:00 น. - 16:00 น.
หมายเหตุ
: -
แผนที่และพิกัดที่ตั้ง
คะแนนรีวิว
0
ความพร้อมสถานที่
0
ความคุ้มค่า
0
การให้บริการ
0
อ่านทั้งหมด >
รายละเอียด
กลุ่มเลี้ยงผึ้งบ้านปากแพรก ตั้งอยูตำบลละหาร อำเภอปลวกแดง มีผลิตภัณฑ์แปรรูป/ของฝาก และยังสามารถศึกษาการเลี้ยงผึ้ง สำหรับคนที่สนใจการเลี้ยงผึ้ง
ที่มาข้อมูล
Thailand Tourism Directory
ข้อมูลแนะนำ
ราคาค่าเข้าชม
• ราคาค่าเข้าชม: ไม่มีค่าใช้จ่าย
• หมายเหตุ : -
รีวิว (0)
0
จาก 5.0
ความพร้อมสถานที่
ความคุ้มค่า
การให้บริการ
แนะนำแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่คล้ายกัน
ไร่สุขถวิล อินทผลัมเมืองช้าง 164 หมู่ 5 ตำบลหนองระฆัง อำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์ 32160
สุรินทร์
สวนสวรรค์สุพรรณบุรี บนเนื้อที่หลายร้อยไร่ ประกอบไปด้วยพืชพันธุ์มากมายหลายชนิด ที่นำมาจัดแสดงให้ชมในแต่ละช่วงเวลา และเทศกาลต่างๆ ตลอดทั้งปี ทั้งไม้ดอกของไทย และต่างประเทศ สีสันสดสวยงามตระการตา และไม้ใบ ไม้ผล ที่ผ่านการค้นคว้าและทำการขยายพันธุ์ จนได้พันธุ์ที่เหมาะสมมีคุณภาพดีที่สุด เพื่อจำหน่ายจ่ายแจกให้เกษตรกรได้นำไป ทำการเพาะปลูกต่อไป
สุพรรณบุรี
บุบเฟ่ต์ผลไม้ การทำกะราง ข้าวตังพื้นบ้าน การสานเสื่อคล้า รำตัดเด็ก
ระยอง
สวนที่ 1 สวนสละเฮียถึก สำหรับผู้ที่ชอบทานสละ มาที่นี้รับรองจะติดใจในรสชาติและอัธยาศัยที่น่ารักเป็นกันเองของเจ้าของสวน สวนสละเฮียถึกให้บริการชมสวน ชมวิถีชีวิตชาวสาน และชิมผลไม้ มีผลไม้สดไว้ให้ซื้อหากลับบ้านกันด้วย กิจกรรม : กินผลไม้ (400บาท/คน)ชมสวน เรียนรู้การทำสวนสละ จำหน่ายผลไม้สด สวนที่ 2 สวนอิสรีย์ฟาร์มม้าไทย เหมาะทั้งแบบครอบครัว มาเป็นกลุ่มเพื่อนฝูง หรือต้องการส่วนตัว กิจกรรม - เรียนรู้การทำเกษตรอินทรีย์ - การขี่ม้าชมสวนผลไม้ - นั่งรถรางชมสวนผลไม้ - จุดเรียนรู้การทำสบู่ - อาชาบำบัด - สาธิตการแปรรูปทุเรียนชิมทุเรียนหนุบหนับ เค้ก - กินผลไม้ ท่านละ 400 บาท - ที่พักโฮมสเตย์ สวนที่ 3 สวนวดี กิจกรรม - ชมสวน - กินผลไม้ ท่านละ 400 บาท - จำหน่ายผลไม้สด สวนที่ 4 สวนอรุณบูรพา ที่นี้ให้บริการชมสวย ชิมผลไม้ และซื้อผลผลิตกลับบ้าน ออกมาแวะเที่ยววัดเขาสุกิมชมความงดงามของพิพิธภัณฑ์วัดเขาสุกิม กิจกรรม - ปั่นจักรยานชมสวน - เรียนรู้วิธีการแปรรูปผลไม้ เช่น ทุเรียนทอด แครกเกอร์ทุเรียน- เรียนรู้วิธีการปลูกและการดูแลสวนทุเรียน - กินผลไม้ (400 บาทต่อคน ) สวนที่ 5 สวนรินรดี กิจกรรม - มีที่พักระดับโรงแรม จำนวน 3 ห้อง พร้อมอาหารเช้า รับได้ 10 ท่าน ( มีห้องสำหรับ 2 คน 1ห้อง และสำหรับ4 ท่าน 2 ห้อง) - มีบริการ wifi - มีระบบความปลอดภัย มีกล้องวงจรปิด - มีกิจกรรมเที่ยว ชม ชิม ทานผลไม้ อิ่มไม่อั้น เงาะ ทุเรียน มังคุด ลองกอง - มีรถพาไปผจญภัยในสวนผลไม้ ไปดูทุเรียนพันธุ์อีหนัก ดูต้นสาละ และเดินเล่นในสวนผลไม้ - มีสนามเด็กเล่น ชิงช้า ม้าหมุน สะพานโค้ง - มีห้องน้ำ หญิง ชาย และคนพิการ - บนจุดชมวิว สามารถมองเห็น เขาคิชกูฎ เขาสุกิม เขาแกลบ เขาลูกช้าง - มาดูกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้า - มีผลไม้และผักในสวนจำหน่าย เช่น เงาะ ทุเรียน มังคุด ลองกอง ในราคาถูก โปรแกรมการท่องเที่ยว เที่ยวชมสวน ไม่ทานผลไม้ ท่านละ 50 บาท เที่ยวชมสวน ทานผลไม้ ท่านละ 400 บาท ที่พัก รวมอาหารเช้า  สำหรับ 2 ท่าน ราคา 990 บาท  สำหรับ 4 ท่านราคา 1,990 บาท  ท่านที่มาพักและทานผลไม้จะเหลือเพียงท่านละ 350 บาท จากราคา 400 บาท ปฏิทินท่องเที่ยว ที่พัก เที่ยวชมสวน = ทั้งปี เที่ยวชมสวน/ทานผลไม้ = ปลายเมษา- ปลายกรกฎา หรือจนกว่าผลไม้จะหมด สินค้า ทุเรียนทอดกรอบ ทุเรียนกวน พริกไทย ผลไม้สด เงาะ มังคุด ลองกอง ทุเรียน เส้นทางเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ (พร้อมระยะทาง/กม.) -  วัดเขาสุกิม  ระยะทาง 8 กิโลเมตร - หาดเจ้าหลาว อำเภอท่าใหม่ ระยะทาง 25  กิโลเมตร - น้ำตกกระทิง อำเภอเขาคิชฌกูฏ  ระยะทาง 20 กิโลเมตร - ศาลหลักเมือง   ระยะทาง 20 กิโลเมตร -  ตลาดชุมชนริมน้ำ ระยะทาง 20  กิโลเมตร -  อู่ต่อเรือเสม็ดงาม ระยะทาง 25  กิโลเมตร -  ท่องเที่ยวเชิงเกษตรเชาบายศรี ระยะทาง 15 กิโลเมตร สินค้าวิสาหกิจชุมชนในชุมชน - ผลไม้สดตามฤดูกาล - ทุเรียนทอด - ทุเรียนกวน - แครกเกอร์ทุเรียน - พริกไทย - เค้กทุเรียน
จันทบุรี
เป็นพื้นที่รอยต่ออุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ทำให้พื้นที่บริเวณนี้มีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ และชาวบ้านที่นี่ทำสวนผลไม้ตามฤดูกาล เหมาะกับการท่องเที่ยวด้านธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีต้นไม้ขุดล้อม ขายกล้าพันธ์ไม้ และมีลานกางเต้น
สระบุรี
ชมสวนผลไม้ ชิมผลไม้สดจากสวน เเละจำหน่ายผลไม้คุณภาพ
ระยอง
จัดเป็นสถานีจุดเรียนรู้อย่างเป็นระบบ เช่น ๑.๑. สถานีการให้บริการเชื้อพันธุ์กล้วยไม้ และห้องเพาะเมล็ดกล้วยไม้ ๑.๒. สถานีการปลูกเลี้ยงกล้วยไม้สายพันธุ์ต่างๆ และการเพิ่มมูลค่ากล้วยไม้ ๑.๓. สถานีการปลูกและขยายพันธุ์ไม้ประดับ ๑.๔. การผลิตเชื้อชีวินทรีย์ (ไตรโครเดอร์ม่า บิวเวอร์เรีย บีที) , การทำปุ๋ยหมักไม่กลับกองสูตรแม่โจ้ ๑.๕. สถานีการเลี้ยงไส้เดือน จิ้งหรีด และชันโรง ๑.๖. สถานีการปลูกผักไร้ดิน และผักลอยฟ้า ๑.๗. สถานีการเพาะเห็ดแบบต่างๆ ๑.๘. สถานีการเพาะต้นอ่อนพืช และการแปรรูปอาหารจากเห็ด ๑.๙. สถานีการขยายพันธุ์ไม้ผลแบบต่างๆ ๑.๑๐. สถานีเกษตรผสมผสานตามหลักปรัญญาเศรษฐกิจพอเพียง (สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม)
สมุทรสาคร
สวนผลไม้ที่ร่มรื่น ได้เห็นต้นทุเรียน, ต้นมังคุด ฯลฯ ที่หลายคนไม่เคยได้เห็นมาก่อน มีผลไม้สดๆ จากสวนให้เลือกซื้อกันด้วย อีกอย่างสวนนี้มีเงาะเขียวขายด้วยนะ เค้าบอกว่าอร่อยมาก พิกัด https://goo.gl/maps/GXxffNrXUqdwF7sx5
สระบุรี
ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดพะเยา (เกษตรที่สูง) ตั้งอยู่บนความสูงจากน้ำทะเล 908 เมตร มีสภาพภูมิอากาศที่ค่อนข้างหนาวเย็นตลอดทั้งปี สภาพพื้นที่เป็นสันเขา ตั้งอยู่ในบริเวณวนอุทยานภูลังกา จากที่ตั้งศูนย์สามารถมองเห็นทิวทัศน์ยอดดอยภูลังกา ซึ่งมีตำนานเล่าขานว่า ในอดีตช่วงก่อนวันพระขึ้น 15 ค่ำ ชาวเขาด้านล่างซึ่งเป็นชนเผ่าเมี่ยน จะมองเห็นแสงสว่างขาวนวลส่องเป็นประกายเหมือนแท่งหน่อไม้คู่ บนยอดภูลังกา ทำให้ชาวบ้านบางคนเกิดความสงสัย บางคนถึงขนาดมานอนค้างอ้างแรมกันข้างบนภูลังกา แต่ก็ไม่พบอะไร แต่พอกลับลงไปก็พบแสงสว่างที่ว่านั้นในวันพระ ขึ้น 15 ค่ำอีก ชาวบ้านแถบนี้จึงเชื่อกันว่า แสงเหล่านั้นเกิดจากการชุมนุมกันของเหล่าเทวดา เชื่อว่า บนภูลังกาแห่งนี้ เป็นที่สถิตของเทพ เทวดา ทุกๆปีจะต้องทำพิธีเซ่นไหว้ เพื่อให้ท่านช่วยปกปักรักษา ชาวเมี่ยนจึงเรียก ภูลังกาแห่งนี้ว่า “ฟินจาเบาะ” หรือ “แท่นเทวดา” โปรแกรมการท่องเที่ยว : 1 วัน - ช่วงเช้า : สัมผัสอากาศหนาว ชมทิวทัศน์ดอยภูลังกา เยี่ยมชมแปลงเรียนรู้ภายในศูนย์ฯ เช่น แปลงองุ่น อาโวคาโด้ การปลูกพืชผักในโรงเรือน และแปลงเกษตรกร - ช่วงบ่าย : จิ๊บกาแฟ และชาเจียวกูหลาน ที่จุดชมวิวผาช้างน้อย ภูลังการีสอร์ท Magic Mountain บ้านทะเลหมอก (ที่พักหลักร้อยวิวหลักล้าน) และเยี่ยมชมโครงการหลวงปังค่า 2 วัน วันที่ 1 - ช่วงเช้า : ไหว้พระขอพรวัดนันตาราม และวัดพระนั่งดิน - ช่วงบ่าย : ชมทิวทัศน์ดอยภูลังกา เยี่ยมชมแปลงเรียนรู้ภายในศูนย์ฯ เช่น แปลงองุ่น อาโวคาโด้ การปลูกพืชผักในโรงเรือน และแปลงเกษตรกร วันที่ 2 - ช่วงเช้า : จิ๊บกาแฟ และชาเจียวกูหลาน ที่จุดชมวิวผาช้างน้อย ภูลังการีสอร์ท Magic Mountain บ้านทะเลหมอก (ที่พักหลักร้อยวิวหลักล้าน) และเยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน - ช่วงบ่าย : เยี่ยมชมโครงการหลวงปังค่า และยอดดอยภูลังกา เส้นทางเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ : '- วัดนันตาราม ระยะห่างจากศูนย์ฯ ประมาณ 42.3 กิโลเมตร - วัดพระนั่งดิน ระยะห่างจากศูนย์ฯ ประมาณ 38 กิโลเมตร - โครงการหลวงปังค่า ระยะห่างจากศูนย์ฯ ประมาณ 21.8 กิโลเมตร - วนอุทยานภูลังกา ระยะห่างจากศูนย์ฯ ประมาณ 25 กิโลเมตร - จุดชมวิวผาช้างน้อย ภูลังการีสอร์ท Magic Mountain บ้านทะเลหมอก (ที่พักหลักร้อยวิวหลักล้าน) ระยะห่างจากศูนย์ฯ ประมาณ 6.9 กิโลเมตร - อุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน ระยะห่างจากศูนย์ฯ ประมาณ 16 กิโลเมตร
พะเยา
กุดกะเหลิบ แหล่งน้ำขนาดใหญ่ กุดกะเหลิบเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ น้ำใสมองเห็นตัวปลา อยู่ในเขตตำบลหนองเป็ดและตำบลหนองหิน เดิมเป็นเพียงแหล่งน้ำที่ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ในการทำเกษตรกรรม และจับสัตว์น้ำ้เพื่อเลี้ยงชีพเท่านั้น แต่ปัจจุบันจังหวัดยโสธร ได้พัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว และพักผ่อนหย่อนใจ โดยการปรับภูมิทัศน์ให้สวยงาม เป็นที่จัดงานสงกรานต์ของจังหวัดทุกปี มีประชาชนได้มาเที่ยวชมและพักผ่อนอยู่เสมอในวันหยุด การเดินทางมาเที่ยว กุดกะเหลิบที่สะดวก คือเริ่มจากถนนยโสธร -อำนาจเจริญ กิโลเมตรที่ 14 (บ้านคำเกิด สังเกตจะมีแตงโมขายตามข้างทาง) เลี้ยวซ้ายเข้าสู่บ้านหนองหงอก ไปบ้านหนองบก -บ้านโนนสวาท ก็จะถึงกุดกะเหลิบ ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร
ยโสธร
หมู่บ้านที่รวมกลุ่มกันทำปลูกผักอินทรีย์ นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาชมและเรียนรู้การทำปุ๋ยหมักจากเศษขยะ การทำปุ๋ยน้ำหมักจากหอยเชอรีย์ การปลูกผักอินทรีย์พันธ์พระราชทานจักรพรรณเพ็ญศิริ เข้ามาชมได้ทุกวัน โทร 08199896279
พะเยา
บ้านจำรุงเป็นหมู่บ้านเล็กๆ สมาชิกเหมือนเป็นคนครอบครัวเดียวกันทั้งหมด แต่เดิมมีลุงสำเริง ดีนาน เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง “โอท็อปโบราณ” ก่อนจะพัฒนาเป็นศูนย์โอท็อปชาวบ้าน นำสินค้าผลผลิตทางการเกษตรในชุมชนมาขาย นอกจากนี้ ยังเปิดแหล่งท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ มีรถพาชมสวน ได้ทั้งการพักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติ และความรู้จากปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงแบบชาวบ้าน ทั้งเกษตรพื้นบ้านไร้สารเคมี เกษตรธรรมชาติกองทัพมด เป็นตัวอย่างนำกลับไปใช้ได้จริง โดยเริ่มลงมือทำตั้งแต่ปีพ.ศ.2529 กระทั่งมีผลงานเป็นรูปธรรม ด้วยความร่วมมือของชาวบ้านที่เข้มแข็ง จากที่ประชุมกันในครัวเรือน กลายเป็นเครือข่ายองค์กรบ้านจำรุง ที่มีการประชุมร่วมกันทุกวันที่ 15 ของเดือน เป็นเวทีสาธารณะ หรือเวทีชาวบ้าน ที่มีทั้งเด็ก เยาวชน และคนแก่ เข้าร่วม ต่อมาปี พ.ศ.2549 จึงจัดตั้งเป็น “มหาวิทยาลัยบ้านนอก” เพื่อการเรียนรู้ของสังคม กระทั่งได้รับรางวัล “หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงอยู่เย็นเป็นสุข” จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากนั้นก็มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาศึกษาหาความรู้กันอย่างไม่ขาดสาย เป็นสิ่งที่ชาวบ้านภาคภูมิใจ
ระยอง