คำค้นยอดฮิต: ข้าวเหนียวมะม่วง ของขวัญออแกนิค ผลไม้สด
TH | EN
฿ 0.00
กลุ่มเกษตรกรอินทรีย์ยางแดง
กลุ่มเกษตรกรอินทรีย์ยางแดง ตำบลคู้ยายหมี อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา
Image
Image
Image
Image
สภาพอากาศวันนี้
อยู่ในเวลาปิดทำการ
วันเวลาทำการ
• วันอาทิตย์
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันจันทร์
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันอังคาร
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันพุธ
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันพฤหัสบดี
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันศุกร์
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันเสาร์
: 09:00 น. - 16:00 น.
หมายเหตุ
: -
แผนที่และพิกัดที่ตั้ง
คะแนนรีวิว
0
ความพร้อมสถานที่
0
ความคุ้มค่า
0
การให้บริการ
0
อ่านทั้งหมด >
รายละเอียด
มีจุดเด่นคือผลผลิตที่การันตีคุณภาพตามระบบมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ระดับประเทศและระดับโลก (IFOAM, EU, COR) เพื่อนนำจำหน่ายส่งออกด้วยมาตรฐานคุณภาพเกรด A “สด ใหม่ พร้อมรับประทาน ” มีการจำหน่ายสินค้าจากเกษตรกรมีคุณภาพดี มีกิจกรรมหลากหลาย อาทิเช่น เก็บผักสด ตัดแต่งผัก ท่องเที่ยวเยี่ยมชมฟาร์ม ดูงาน เรียนรู้เกษตรอินทรีย์ เป็นต้น
ประวัติความเป็นมา
แต่เดิมพื้นที่บ้านยางแดงมีเกษตรกรเข้ามา และมีการปลูกมันสำปะหลังค่อนข้างเยอะ จึงทำให้สภาพป่าเริ่มเสื่อมโทรม และเกิดการขาดแคลน จึงได้เริ่มส่งเสริมรณรงค์การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนก่อให้เกิดเป็นหมู่บ้านอินทรีย์บ้านยางแดงเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2544 ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของกลุ่มเกษตรอินทรีย์กลุ่มต่างๆ ได้แก่ กลุ่มเกษตรอินทรีย์ตำบลเขาไม้แก้ว กลุ่มเกษตรอินทรีย์สนามชัยเขต กลุ่มเกษตรอินทรีย์ตำบลนนทรี กลุ่มเกษตรอินทรีย์ตำบลดงบัง กลุ่มเกษตรอินทรีย์ตำบลวังตาล และกลุ่มเกษตรอินทรีย์ตำบลหนองแก้ว โดยมีการวางรากฐานกระบวนการพัฒนาชุมชนแบบมีส่วนร่วม เน้นการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนของเกษตรกรรายย่อย และสหกรณ์กรีนเนท จำกัด เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนระบบการผลิตเป็นเกษตรอินทรีย์ยั่งยืนเพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหาร และรายได้ รวมถึงฟื้นฟูอนุรักษ์สภาพแวดล้อมและพันธุกรรมพืชท้องถิ่น
ที่มาข้อมูล
Thailand Tourism Directory
ข้อมูลแนะนำ
ราคาค่าเข้าชม
• ราคาค่าเข้าชม: ไม่มีค่าใช้จ่าย
• หมายเหตุ : -
รีวิว (0)
0
จาก 5.0
ความพร้อมสถานที่
ความคุ้มค่า
การให้บริการ
แนะนำแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่คล้ายกัน
ชุมชนบ้านบัวเทิง ศูนย์แห่งการเรียนรู้วิถีชีวิตการดำรงชีวิตเพื่อความสุขอย่างพอเพียง การทำการเกษตรผสมผสาน เกษตรปลอดสารพิษ และแหล่งเรียนรู้การทำปุ๋ยหมักจุลินทรีย์ชีวภาพ ประโยชน์และการใช้ปุ๋ยหมักชีวภาพกับการเกษตร การใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการพัฒนาการเกษตรให้เหมาะสมกับพื้นที่ภาคอีสานที่ร้อนและแห้งแล้ง
อุบลราชธานี
พระธาตุก่องข้าวน้อย ตั้งอยู่ในทุ่งนา ตำบลตาดทอง เป็นเจดีย์เก่าสมัยขอม สร้างในพุทธศตวรรษที่ 23-25 ตรงกับสมัยอยุธยาตอนปลาย ตั้งอยู่ในเขตวัดพระธาตุก่องข้าวน้อย ซึ่งแต่เดิมเป็นเพียงทุ่งนาในเขตตำบลตาดทอง พระธาตุก่องข้าวน้อยเป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูน รูปทรงแปลกไปจากเจดีย์โดยทั่วไป คือมีลักษณะเป็นก่องข้าว องค์พระธาตุเป็นเจดีย์เหลี่ยมย่อมุมไม้สาม ฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างด้านละ 2 เมตร ก่อสูงขึ้นไปประมาณ 1 เมตร ช่วงกลางขององค์พระธาตุมีลวดลายทำเป็นซุ้มประตูทั้งสี่ด้าน ถัดจากช่วงนี้ไปเป็นส่วนยอดของเจดีย์ที่ค่อยๆ สอบเข้าหากัน ส่วนยอดรอบนอกของพระธาตุก่องข้าวน้อยมีกำแพงอิฐล้อมรอบขนาด 55 เมตร นอกจากนี้บริเวณด้านหลังพระธาตุมีพระพุทธรูปอยู่องค์หนึ่งก่อด้วยอิฐ ชาวบ้านนับถือว่าศักดิ์สิทธิ์มาก และในเดือนห้าจะมีผู้คนนิยมมาสรงน้ำพระและปิดทอง เชื่อกันว่าถ้าไม่ทำเช่นนี้ฝนจะแล้งในปีนั้น นอกจากนี้ที่บริเวณบ้านตาดทอง กรมศิลปากรได้ดำเนินการขุดค้นเรื่องราวของมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ได้ค้นพบโครงกระดูกมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ และภาชนะลายเขียนสีแบบบ้านเชียง
ยโสธร
จุดชมวิวเนินสวรรค์ เป็นบริเวรที่ตั้งสำนักงานและแปรรูปเหมืองตะกั่ว ที่ส่งไปขายยังต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันเหมืองแร่ดังกล่าวหมดสัมปทานไปแล้ว เป็นเวลากว่าสิบปี ปัจจุบันเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ได้ตั้งเป็นจุดตรวจสกัด และดูแลบริเวณสำนักงานเหมืองเก่า ที่ตั้งจุดตรวจนี้ เป็นพื้นที่สูงสามารถมองเห็นพื้นที่ด้านล่างได้สวยงาม หน้าหนาวจะมองเห็นเป็นทะเลหมอกในพื้นที่หมู่ที่ ๒ ทั้งหมู่บ้าน ช่วงกลางวันจะมองเห็นหมู่บ้านป่าไม้สะพานลาวที่สวยงาม รอบบริเวณจุดชมวิว สามารถเป็นที่กางเต็นท์ได้มากกว่า ๕๐ เต็นท์ ด้วยสภาพอากาศที่หนาวเย็น สามารถชมแสงเดือน แสงดาว ในยามค่ำคืนได้
กาญจนบุรี
ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ จ.นครนายก การมาเที่ยวชมศูนย์ฯ แห่งนี้ไม่มีค่าใช้จ่าย เว้นแต่ว่ามากันเป็นหมู่คณะ และต้องการทำกิจกรรมต่างๆ ที่ทางศูนย์ฯ ได้จัดขึ้น ที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้ชั้นเลิศ ที่จะทำให้เข้าใจเรื่องราวของคำว่า "พอเพียง" และการใช้ทรัพยากรอย่างไรให้ได้ประโยชน์และรู้คุณค่ามากที่สุด การเดินเที่ยวชมที่แห่งนี้ เดินชมได้เป็นลักษณะคล้ายวงกลม โดยเริ่มจาก โซนภาคเหนือ ตื่นตาไปกับการปลูกไม้ไผ่ชนิดต่างๆ สองข้างทาง รวมทั้งความน่ารักของสะพานไม้ไผ่ บ้านที่สร้างจากไม้ไผ่ริมสระบัว และเครื่องเล่นที่ทำจากไม้ไผ่ ที่จัดแสดงแบบนี้ เป็นเพราะต้องการให้ได้รู้ว่าไม้ไผ่สามารถทำประโยชน์อะไรได้มากมาย รวมทั้งทำรางหยดน้ำ เพื่อใช้รดน้ำต้นไม้และรดดินแทนคนอีกด้วย เดินขึ้นไปตามภูเขาก้อนเล็กๆ เรียนรู้เรื่องภูเขาป่า การตะบันน้ำ คือ การที่ใช้น้ำอัดน้ำขึ้นที่สูงแทนการใช้เครื่องปั๊มน้ำ ระบบป่าเปียกกันไฟ ประโยชน์ของหญ้าแฝก และการทำฝายชะลอความชุ่มชื้น เดินต่อไปยัง โซนภาคกลาง เรียนรู้เรื่องการเกษตรทฤษฎีใหม่ เพื่อให้เกษตรกรได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ของตัวเองอย่างคุ้มค่า เรียนรู้การสร้างบ้านดิน และเรื่องสมุนไพรนานาชนิด แล้วก็เดินไปยัง โซนภาคตะวันออกเฉียง เหนือ ชมธนาคารข้าว เรียนรู้เรื่องการสีข้าว การเลี้ยงปศุสัตว์ แอบเห็นวัวตัวเบ่อเริ่มอยู่ในคอกด้วย การทำปุ๋ยหมักไว้ใช้เอง จะได้ไม่ต้องซื้อปุ๋ยเคมี และได้เรียนรู้เรื่องการห่มดิน จากที่พื้นที่ที่ไม่มีดิน ต้องใช้วิธีห่มดิน เพื่อให้ได้ดินดีๆ กลับมาปลูกพืชผัก แต่จะทำอย่างไร อยากให้ไปเรียนรู้ด้วยตัวเองจะดีที่สุด สุดท้ายไปยัง โซนภาคใต้ ไปดูการเผาถ่านที่ทำจากไม้ไผ่ การทำน้ำมันไบโอดีเซล และเรียนรู้โครงการแก้มลิง นอกจากนี้ตลอดภายในศูนย์ฯ ฉันเห็นว่าจะมีร่องน้ำขนาดใหญ่และเล็กตลอดเส้นทาง มีสระน้ำ มีแปลงเกษตรปลูกพืชผัก มีกังหันน้ำชัยพัฒนา มีการปลูกหญ้าแฝกในน้ำ และอื่นๆ อีกมากมาย จบการเดินเที่ยวชม ที่รับสาระความรู้และความเพลิดเพลินเดินอย่างไม่รู้เหนื่อยกันไป เดินชม ตาดู หูฟังและปากถามเจ้าหน้าที่ไม่ลดละ เพียงเพราะว่าสิ่งที่เราคิดว่า ‘เรารู้' กลายเป็นสิ่งที่เราไม่เคยรู้มาก่อน นั่นเป็นเพราะความเคยชินกับโครงการต่างๆ หรือทฤษฎีต่างๆ แต่ไม่เคยปฏิบัติหรือมาสัมผัสจริง การเดินทาง : จากแยกรังสิต ไปทาง อ.องครักษ์ มุ่งหน้าไปใช้เส้นนครนายก-น้ำตกนางรอง ผ่านวังตะไคร้ ก่อนถึงน้ำตกนางรอง 2 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าโครงการเขื่อนขุนด่านปราการชล ตรงไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร ถึงวงเวียน (มีรูปปั้นช้าง) วนขวาข้ามสะพาน ถึงสี่แยกเลี้ยวขวาตรงไปอีก 200 เมตร ศูนย์ฯ จะอยู่ทางซ้ายมือ
นครนายก
สวนหอมมีสุข วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรผลิตไม้กฤษณา ซึ่งเป็นแหล่งผลิตไม้กฤษณาสายพันธุ์ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย
ระยอง
อัตราค่าบริการต่างๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ กรุณาติดต่อสอบถามรายละเอียดและรายการโปรโมชั่นต่างๆโดยตรงที่ " เขามะกอก ฟาร์มสเตย์ "
สระบุรี
พระธาตุกู่จาน ตั้งอยู่ภายในวัดบ้านกู่จานเป็นปูชนียสถานสำคัญ ประชาชนชาวเมืองยโสธรและจังหวัดใกล้เคียงต่างสักการะบูชา ลักษณะเป็นเจดีย์ทรงบัวเหลี่ยมรูปทรงคล้ายพระธาตุพนมแต่มีขนาดเล็กกว่า ส่วนของฐานล่างรูปบัวคว่ำบัวหงายเตี้ยๆ รองรับฐานสูงรูปสี่เหลี่ยมเรียบต่อด้วยทรงบัวเหลี่ยม ประดับตกแต่งด้วยลวดลายประณีตสวยงามตามโบราณ และยอดพระธาตุทรงเหลี่ยมรองรับฉัตรซึ่งเป็นยอดบนสุด จากหลักฐานน่าจะสร้างขึ้นตามคตินิยมในการสร้างพระธาตุทั่วไป คือ เพื่อการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ แต่ละปีจะมีการจัดพิธีสรงน้ำเพื่อรักษาประเพณีที่ดีงามเอาไว้ ลักษณะทางสถาปัตยกรรม องค์พระธาตุกู่จาน กว้าง 5.10 เมตร สูง 15 เมตร ที่ตั้ง ตั้งอยู่ที่บ้านงิ้ว กลางลานวัดกู่จาน ตำบลกู่จาน อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ซึ่งดูลักษณะแล้วคล้ายคลึงกับองค์พระธาตุพนม ต่างกันเพียงขนาดซึ่งพระธาตุกู่จานมี ขนาดเล็กกว่า ความสำคัญต่อชุมชน : เป็นที่สักการะของชาวเมืองยโสธรและจังหวัดใกล้เคียง ทุกๆ ปี ชาวตำบลกู่จานจะนำน้ำอบ น้ำหอมไป ทำพิธีสรงน้ำพระธาตุในช่วงเช้าของวัน เพ็ญ เดือน 6 ตอนบ่ายจะไปทำพิธีสรงน้ำ "กู่" หลังจากนั้นจะพากันไปที่หนองสระพัง เพื่อนำน้ำที่หนองสระพังมาทำพิธี สรงน้ำพระธาตุและใบเสมา ซึ่งพิธีกรรมดังกล่าวนี้ ต้องกระทำเป็นประจำทุกปี มีความเชื่อว่าหากไม่ทำพิธีดังกล่าวแล้วจะทำให้ ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล ชาวบ้านกู่จานจึงได้ถือปฏิบัติพิธีนี้เป็นประจำ
ยโสธร
1.เป็นศูนย์เรียนรู้สวนเอเดนเกษตรอินทรีย์เศรษฐกิจพอเพียง 2.การทำแก๊สชีวภาพใช้ในครัวเรือน 3.การทำปุ๋ยอินทรีย์และการทำน้ำหมักชีภาพ 4.การใช้ควายไถนาสู่วิถีชีวิตดั้งเดิม 5.การฝายชะลอน้ำและการฟื้นฟูป่าเพื่อเป็นแหล่งน้ำ(ปลูกป่า) 6.การทำหมูหลุม ควายหลุุม ไก่ และอื่นๆ 7.การปลูกพืชผักอินทรีย์และผลไม้อินทรีย์(ผสมผสาน) 8.การประมง
เชียงราย
ที่นี่ บ้านนาสวนสามขา อำเภอสันติสุข สัมผัสวิถีเนิบช้ากับยามเช้าอันแสนสงบ เที่ยวชมท้องทุ่งสีเขียวอ่อน ในหน้าฝน สูดดิน กลิ่นโคลน สุดสดชื่นระรื่นตา กับบรรยากาศชายทุ่งเดินเล่นทอดน่องพักผ่อนสบายๆ กินอยู่ง่ายๆ เก็บพืชผักสวนครัวในบ้าน นำมาปรุงอาหาร เป็นเมนูในท้องถิ่น แค่นี้ก็อิ่มอร่อยมีเวลาเหลือๆ ลงแปลงเพาะกล้า ทำนาโยน เรียนรู้การเกษตรวิถีใหม่ บางคนไม่ใช่เกษตรกรโดยตรง ไม่เคยดำนา มาท่องเที่ยว อยากเดินย่ำโคลนโยนข้าว สัมผัสสายลม และท้องทุ่งขนต้นกล้าที่เพาะไว้ไปแปลงนา เดินป่าๆ โยนๆ แบบซิวๆ ไม่ต้องก้มให้เมื่อย ยิ่งแดดร่ม ลมตกแบบนี้สบายๆ
น่าน
บ้านสวนขวัญจังหวัดลพบุรี อยู่ที่ตำบลมหาสอน อำเภอบ้านหมี่ เรียนรู้วิถีชุมชนบ้านมหาสอน ชุมชนที่อยู่ติดลุ่มน้ำบางขาม เป็นแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์ทิวทัศน์สวยงามสงบเหมาะแก่การพักผ่อน และในอดีตมีฉายาว่าอู่ข้าว ซึ่งเป็นพื้นที่ราบลุ่มเหมาะแก่การปลูกข้าวจึงทำให้ข้าวที่เพาะปลูกบริเวณนี้มีคุณภาพที่ดี ทั้งยังมีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่าพันปีในยุคทราวดีต้นกำเนินธิดาเมืองละโว้ พระนางจามเทวี และ เรียนรู้การพึ่งตนเองน้อมนำศาสตร์พระราชา ทั้งยังมีอาหารพื้นบ้านและผลผลิตทางการเกษตรสด ๆ ปลอดภัยไร้สารเคมีมาให้นักท่องเที่ยวได้ชิมและซื้อกลับ สัมผัสการท่องเที่ยวภูมิปัญญาและวิถีชุมชนโดยการนั่งรถอีแต๋น และ ทำกิจกรรมพึ่งตนเองที่ฟาร์ม ล่องแพไม้ไผ่ยามเย็นสัมผัสวิถีคนลุ่มน้ำ บางเวลา ณ. บางขาม โปรแกรมการท่องเที่ยว - บ้านสวนขวัญ เรียนรู้การพึ่งพาตนเองด้วยศาสตร์พระราชา,การเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามแดง,พิพิธภัณฑ์โรงสีข้าว,การทำพิซซ่าเตาถ่าน,แช่มือ แช่เท้า ด้วยสมุนไพร จากภูมิปัญญาของชุมชน,ทำขนมไทย,ล่องแพเปียก              - นั่งอีแต๋น ชมวิถีชุมชน เรียนรู้การสานตะกร้าหวาย,การทำแคปหมู,การเพาะเลี้ยงจิ้งหรีด,การทำผลิตภัณฑ์ จากผักตบชวา,ชมบ้านไทยโบราณ,ชมวิถีชาวนาไทย,การดำนา,การเกี่ยวข้าว เส้นทางเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ (พร้อมระยะทาง/กม.) - วัลลภาฟาร์ม ต.เขาพระงาม อ.เมือง  จ.ลพบุรี ระยะทาง 35 กม.                           - บ้านดินมดแดง  ต.โคกตูม อ.เมือง จ.ลพบุรี ระยะทาง 65 กม.                           - กลุ่มชาติพันธ์  ต.บ้านทราย อ.บ้านหมี่  จ.ลพบุรี ระยะทาง 15  กม.                           - ผลิตภัณฑ์ขนมไทย    ต.ทองเอน อ.อินทร์บุรี   จ.สิงห์บุรี ระยะทาง 25  กม. สินค้าวิสาหกิจชุมชนในชุมชน  -ไข่เค็ม พอกด้วยดินสอพอง+ใบเตย,แคปหมู,น้ำพริกแดง,น้ำพริกขี้กา,ผลิตผลทางการ  เกษตรตามฤดูกาล,ตะกร้าหวาย สินค้า OTOP
ลพบุรี
โครงการหมู่บ้านเกษตรกรรมหนองหว้า เป็นโครงการที่รเริ่มดำเนินการโดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งได้รับความร่วมมือสนับสนุนจาดส่วนราชการ อำเภอพนมสารคาม และธนาคารกรุงเทพ จำกัด เป็นโครงการที่จัดตั้งขึ้นมา เพื่่อช่วยเหลือเกษตรที่มีฐานะยากจน ไม่มีที่ทำกินเป็นของตนเอง ให้มีโอกาสได้ประกอบอาชีพการเลี้ยงสัตว์ ควบคู้ไปกับเพราะปลูก การดำเนินงานของโครงการ จัดเป็นระบบเบ็ดเสร็จครบวงจร เพื่อให้การพัฒนาอาชีพของกระเกษตรกรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ฉะเชิงเทรา
อำเภอเมืองจันทร์เป็นพื้นที่ที่มีความเหมาะสมในการปลูกส้มโอ ดินส่วนใหญ่เป็นดินที่เกิดจากตะกอนลำน้ำ เนื้อดินค่อนข้างเป็นทราย มีปฏิกิริยาดินเป็นกรดเล็กน้อยถึงเป็นกลาง การระบายน้ำดีถึงดีปานกลาง ความอุดมสมบูรณ์ปานกลาง มีความลาดชันเล็กน้อย และเป็นพื้นที่มีระดับน้ำใต้ดินตื้น คุณภาพน้ำใต้ดินดี สามารถนำมาใช้ประโยชน์ด้านการเกษตรได้ดี ไม่มีปัญหาน้ำกระด้าง ทำให้ส้มโอของอำเภอเมืองจันทร์มีคุณภาพและรสชาติดี ไม่มีรสขม เปลือกอ่อนบาง ไม่กระด้าง รสหวานฉ่ำ อร่อย เนื้อไม่แฉะ และปลอดภัยจากสารพิษ
ศรีสะเกษ