คำค้นยอดฮิต: ข้าวเหนียวมะม่วง ของขวัญออแกนิค ผลไม้สด
TH | EN
฿ 0.00
บ้านนอก Story
บ้านนอก Story ตำบลบ่อทอง อำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์
Image
Image
Image
Image
สภาพอากาศวันนี้
อยู่ในเวลาปิดทำการ
วันเวลาทำการ
• วันอาทิตย์
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันจันทร์
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันอังคาร
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันพุธ
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันพฤหัสบดี
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันศุกร์
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันเสาร์
: 09:00 น. - 16:00 น.
หมายเหตุ
: -
แผนที่และพิกัดที่ตั้ง
คะแนนรีวิว
0
ความพร้อมสถานที่
0
ความคุ้มค่า
0
การให้บริการ
0
อ่านทั้งหมด >
รายละเอียด
บ้านนอก Story
จุดเริ่มต้น กว่าจะมาเป็นบ้านนอก story เริ่มจากสิ่งที่ชอบ และนำสิ่งที่ชอบนั้นมาสร้างรายได้ให้ได้
สิ่งที่ชอบของพวกเราคือ ความเป็นบ้านๆ ความเป็นชนบท และอยู่กับธรรมชาติ นี่คือจุดแข็งอย่างแรกที่เรามั่นใจ
ว่าพวกเราจะอยู่กับสิ่งๆนี้ไปได้ตลอด แม้อาจจะไม่มีรายได้เกิดขึ้นเลยก็ตาม
เลยเลือกที่จะกลับมาพิสูจน์ตัวเองที่บ้านเกิด ว่าพวกเราจะยังมีความเชื่อที่แรงกล้า พอที่จะฝ่าฟันอุปสรรค
และความเป็นชนบทที่แท้จริงได้หรือไม่ ก่อนเปิดร้านบ้านนอก สตอรี พวกเราได้ ออกไปหาประสบการณ์
คือการไปออกบูธขายกาแฟ 8 เดือน เพื่อปรับสูตรและเมล็ดกาแฟที่ให้เป็นตัวเองมากที่สุด
และเดินทางทั่วประเทศไทย อีก 2 เดือน เพื่อหาไอเดียใหม่ๆ รสชาติใหม่ๆ
ความรู้เรื่องกาแฟ และประสบการณ์ มุมมองเกี่ยวกับการทำธุรกิจเล็กๆ พวกเราใช้เวลาเรียนรู้ กัน 1 ปีเต็ม
กว่าจะมาเป็นร้านบ้านนอก สตอรี แน่นอนว่า เมื่อเรามาทำร้าน จุดที่เป็นจุดขายและเป็นเอกลักษณ์คือ
ใช้ของที่มีอยู่แล้วในพื้นที่ เช่นไม้ ต้นไม้ วัสดุที่หาได้ตามบ้านนอก ที่ผู้คนหรือชาวบ้านไม่เห็นคุณค่า
นำกลับมาดัดแปลง ในไอเดียที่เรามี ลดวัสดุสิ้นเปลือง แถมยังได้ใช้ประโยชน์จากธรรมชาติแบบสูงสุด
อยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน ร้านของเราก็เลยจะมีวัสดุที่มาจากธรรมชาติ เป็นหลัก
และร้านของเรา ยังเน้นไปที่การ ให้ลูกค้าได้อยู่แบบ OUT DOOR อยู่กับธรรมชาติ ฟังเสียงนก
สัมผัสอากาศที่บริสุทธิ์ อย่างน้อย ก็เพื่อบำบัดความเครียด เพื่อให้สมองได้ปลอดโปร่ง
เพราะฉะนั้น ร้านของเรา เป็นร้านที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้ลูกค้า เข้ามาผ่อนคลาย
และได้รับเครื่องดื่มและอาหารที่อร่อย ในทุกๆเมนู ที่สำคัญคือได้ความสบายใจ
ที่มาเยือน ณ ร้านของเรา เพราะเราให้ความสำคัญ กับการบริการ และ รสชาติของอาหารเป็นหลัก
สุดท้ายนี้ การเปิดร้านเล็กๆข้างบ้าน เป็นเพราะทุนของเรามีจำกัด จึงต้องทำร้านเล็ก เพื่อไปสร้างร้านใหญ่
เพราะเรามีฝันที่ใหญ่กว่านี้มาก และหวังว่าทุกคนที่ชอบความเป็น บ้านนอก สตอรี ฉบับ โฮม ทาวน์
แบบชนบท จะสนับสนุนและให้กำลังใจพวกเรา ได้ทำฝันให้สำเร็จ
ขอบคุณครับ
ประวัติความเป็นมา
บ้านนอก Story จุดเริ่มต้น กว่าจะมาเป็นบ้านนอก story เริ่มจากสิ่งที่ชอบ และนำสิ่งที่ชอบนั้นมาสร้างรายได้ให้ได้ สิ่งที่ชอบของพวกเราคือ ความเป็นบ้านๆ ความเป็นชนบท และอยู่กับธรรมชาติ นี่คือจุดแข็งอย่างแรกที่เรามั่นใจ ว่าพวกเราจะอยู่กับสิ่งๆนี้ไปได้ตลอด แม้อาจจะไม่มีรายได้เกิดขึ้นเลยก็ตาม เลยเลือกที่จะกลับมาพิสูจน์ตัวเองที่บ้านเกิด ว่าพวกเราจะยังมีความเชื่อที่แรงกล้า พอที่จะฝ่าฟันอุปสรรค และความเป็นชนบทที่แท้จริงได้หรือไม่ ก่อนเปิดร้านบ้านนอก สตอรี พวกเราได้ ออกไปหาประสบการณ์ คือการไปออกบูธขายกาแฟ 8 เดือน เพื่อปรับสูตรและเมล็ดกาแฟที่ให้เป็นตัวเองมากที่สุด และเดินทางทั่วประเทศไทย อีก 2 เดือน เพื่อหาไอเดียใหม่ๆ รสชาติใหม่ๆ ความรู้เรื่องกาแฟ และประสบการณ์ มุมมองเกี่ยวกับการทำธุรกิจเล็กๆ พวกเราใช้เวลาเรียนรู้ กัน 1 ปีเต็ม กว่าจะมาเป็นร้านบ้านนอก สตอรี แน่นอนว่า เมื่อเรามาทำร้าน จุดที่เป็นจุดขายและเป็นเอกลักษณ์คือ ใช้ของที่มีอยู่แล้วในพื้นที่ เช่นไม้ ต้นไม้ วัสดุที่หาได้ตามบ้านนอก ที่ผู้คนหรือชาวบ้านไม่เห็นคุณค่า นำกลับมาดัดแปลง ในไอเดียที่เรามี ลดวัสดุสิ้นเปลือง แถมยังได้ใช้ประโยชน์จากธรรมชาติแบบสูงสุด อยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน ร้านของเราก็เลยจะมีวัสดุที่มาจากธรรมชาติ เป็นหลัก และร้านของเรา ยังเน้นไปที่การ ให้ลูกค้าได้อยู่แบบ OUT DOOR อยู่กับธรรมชาติ ฟังเสียงนก สัมผัสอากาศที่บริสุทธิ์ อย่างน้อย ก็เพื่อบำบัดความเครียด เพื่อให้สมองได้ปลอดโปร่ง เพราะฉะนั้น ร้านของเรา เป็นร้านที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้ลูกค้า เข้ามาผ่อนคลาย และได้รับเครื่องดื่มและอาหารที่อร่อย ในทุกๆเมนู ที่สำคัญคือได้ความสบายใจ ที่มาเยือน ณ ร้านของเรา เพราะเราให้ความสำคัญ กับการบริการ และ รสชาติของอาหารเป็นหลัก สุดท้ายนี้ การเปิดร้านเล็กๆข้างบ้าน เป็นเพราะทุนของเรามีจำกัด จึงต้องทำร้านเล็ก เพื่อไปสร้างร้านใหญ่ เพราะเรามีฝันที่ใหญ่กว่านี้มาก และหวังว่าทุกคนที่ชอบความเป็น บ้านนอก สตอรี ฉบับ โฮม ทาวน์ แบบชนบท จะสนับสนุนและให้กำลังใจพวกเรา ได้ทำฝันให้สำเร็จ
ลักษณะเด่น
ใช้ของที่มีอยู่แล้วในพื้นที่ เช่นไม้ ต้นไม้ วัสดุที่หาได้ตามบ้านนอก ที่ผู้คนหรือชาวบ้านไม่เห็นคุณค่า นำกลับมาดัดแปลง ในไอเดียที่เรามี ลดวัสดุสิ้นเปลือง แถมยังได้ใช้ประโยชน์จากธรรมชาติแบบสูงสุด อยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน ร้านก็เลยจะมีวัสดุที่มาจากธรรมชาติ เป็นหลัก และ ยังเน้นไปที่การ ให้ลูกค้าได้อยู่แบบ OUT DOOR อยู่กับธรรมชาติ ฟังเสียงนก สัมผัสอากาศที่บริสุทธิ์ อย่างน้อย ก็เพื่อบำบัดความเครียด เพื่อให้สมองได้ปลอดโปร่ง
ที่มาข้อมูล
Thailand Tourism Directory
ข้อมูลแนะนำ
ราคาค่าเข้าชม
• ราคาค่าเข้าชม: ไม่มีค่าใช้จ่าย
• หมายเหตุ : -
รีวิว (0)
0
จาก 5.0
ความพร้อมสถานที่
ความคุ้มค่า
การให้บริการ
แนะนำแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่คล้ายกัน
สถานีวิจัยและฝึกอบรมที่สูง ใช้เป็นแปลงเพื่อศึกษาทดลองเกี่ยวกับพืช เป็นสถานที่ฝึกงานนักศึกษาทั้งในและนอกสถาบัน และ เป็นที่ศึกษาธรรมชาติ ให้แก่บุคคลผู้สนใจทั่วไป
เชียงใหม่
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชมาเป็นเวลานาน ก่อนคำว่า “ความหลากหลายทางชีวภาพ (BIOLOAGICAL DIVERSITY)”และอนุรักษ์ (COUSERVATION) จะเป็นที่รู้จักกันดีในประเทศไทย จากการเสด็จแปรพระราชฐานไปประทับ ณ วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในปี พ.ศ. 2503 เมื่อเสด็จผ่านอำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ทอดพระเนตรเห็น ต้นยางนาขนาดใหญ่ขึ้นเป็นจำนวนมาก ทรงมีพระราชทานให้เก็บเมล็ดพันธุ์ยางนาไปเพาะที่ตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน และนำต้นยางนาที่เพาะได้ นำมาปลูก ในสวนจิตรลดา เพื่อเป็นแหล่งศึกษา ต่อมาในปี พ.ศ. 2528 ทรงมีพระราชทานพระราชดำริให้ทำการอนุรักษ์ต้นขนุนในพระบรมมหาราชวัง และได้ดำเนินโครงการอนุรักษ์พรรณไม้ ในพระราชวังต่างๆ โดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ต่อมาในปี พ.ศ. 2529 ทรงมีพระราชดำริให้มีการอนุรักษ์ และขยายพันธุ์หวายรวมทั้งดำเนินการจัดสร้างสวนสมุนไพรในโครงการสวนพระองค์ ฯ สวนจิตรลดา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามพระบรมราชกุมารี ทรงสืบต่องานอนุรักษ์พันธุกรรมพืชโดยทรงมีพระราชดำริกับท่านเลขาธิการพระราชวัง ให้มีการดำเนินการอนุรักษ์พืชพรรณของประเทศ ในเดือน มิถุนายน 2535 ซึ่งมีโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ได้จัดสร้างธนาคารพืชพรรณสำหรับเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์โดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อรวมทั้งการศึกษาที่มิใช่พืชเศรษฐกิจให้มีการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชโดยนำพระราชดำริ มาเป็นกรอบในการดำเนินการ เมื่อปี พ.ศ. 2536 นายสุจินต์ ภูนิคม กำนันตำบลสลุย อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร และคณะได้ประสานงานหารือกับผู้อำนวยการบริษัทอุลตร้าโปรดักส์ จำกัด และเกษตรกรจังหวัดชุมพรในการนำพื้นที่สาธารณะประโยชน์ซึ่งตั้ง ณ หมู่ที่ 6 ตำบลสลุย (ปัจจุบัน หมู่ที่ 5,6 ตำบลสลุย และ หมู่ที่ 4 ,7 ตำบลสองพี่น้อง) เพื่อจัดทำโครงการอนุรักษ์พันธุ์ไม้ ซึ่งขณะนั้น โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดาก็กำลังจัดหาพื้นที่เพื่อจัดทำโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ต่อมาทางโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา โดยศาสตราจารย์พิเศษประชิด วามานนท์ (ที่ปรึกษาโครงการส่วนพระองค์) พร้อมคณะได้เดินทางมาพบผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร (นายประยูร พรหมพันธุ์) เพื่อปรึกษาหารือในการจัดทำโครงการโดยใน ระยะ 5 ปี แรกได้ใช้ ชื่อโครงการว่า “โครงการอนุรักษ์พันธุ์ไม้และพิพัฒน์พรรณไม้ ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จังหวัดชุมพร” โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดชุมพร จึงได้ทำโครงการเสนอความเห็นชอบจากผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรและได้จัดส่งเอกสารโครงการไปยังผู้อำนวยการโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา เพื่อโปรดนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองพระบาทในโอกาสอันสมควรและทางโครงการส่วนพระองค์ได้แจ้งตอบรับ เรื่องการนำโครงการอนุรักษ์พันธุไม้และพิพัฒน์พรรณพืชฯ จังหวัดชุมพร ทราบฝ่าละอองพระบาท เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2536 และในการดำเนินโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดาได้ผนวกโครงการอนุรักษ์พันธุ์ไม้ และพิพัฒน์พรรณพืชของจังหวัดชุมพร เข้ากับโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริในส่วนกลางมีดร.พิศิษฐ์ วรอุไร เป็นประธานคณะกรรมการ และจากการประชุมกรรมการ เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2540 ที่ประชุมมีมติเปลี่ยนชื่อโครงการอนุรักษ์พันธุ์ไม้และพิพัฒน์พรรณพืช ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จังหวัดชุมพร เป็นชื่อ “โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จังหวัดชุมพร”
ชุมพร
บ้านมณีพฤกษ์ ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 11 ตำบลงอบ อำเภอทุ่งช้าง จังหวัดน่าน เป็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้งและเผ่าลั๊วะ สภาพภูมิประเทศที่ตั้ง หมู่บ้านเป็นภูเขาสูง ตั้งอยู่ในระดับความสูงที่ 1,200 – 1,400 เมตร
น่าน
สับปะรด ไอศกรีมสับปะรด น้ำสับปะรดสด
ระยอง
การทำเกษตรตามแนวพระราชดำริ การเกษตรพอเพียงเพื่อเพิ่มมูลค่าของสินค้า และเป็นจุดแหล่งท่องเที่ยวทางการเกษตรทฤษดีใหม่
แพร่
ศูนย์เรียนรู้เกษตรอินทรีย์วิถีชุมชนตำบลสิบเอ็ดศอก แหล่งองค์ความรู้ สามารถเข้ามาศึกษาดูงาน เรียนรู้ลงมือปฏิบัติ ตามรอยเท้าพ่อ
ฉะเชิงเทรา
เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่ยังคงมีความเป็นธรรมชาติ และบริสุทธิ์ อบอุ่นไปด้วยวิถีชีวิตที่งดงามของชาวเขา ในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค. ซึ่งป็นฤดูทำนาข้าว นักท่องเที่ยวจะได้ชม
แม่ฮ่องสอน
การส่งเสริมและสนับสนุนอาชีพทางการเกษตรของตำบลสาคู และสืบสานดำเนินงานตามแนวพระราชดำริโครงการเศรษฐกิจพอเพียง
ภูเก็ต
เขาใหญ่ฟาร์มวิลเลจ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร มีทั้งฟาร์ทแกะ กระต่าย ศูนย์เรียนรู้ดูงานท่องเที่ยวครบวงจร อีกทั้งมีกิจกรรมให้ทำมากกว่า 20 อย่างเช่น เก็บเห็ด เก็บไข่ จัดสวนขวด ทำพิซซ่าเตาดิน ทำเทียนสมุนไพร ปั้นดิน ทำสบู่ เป็นต้น เปิดทุกวัน ค่าเข้าชม 100 บาท กรีนมี ออแกนิคฟาร์ม ความโดดเด่นอยู่ที่วิถีการทำเกษตรอินทรีย์ มีการปลูกข้าว เลี้ยงสัตว์ ปลูกผัก เพาะเห็ดและการแปรรูปสินค้าที่มีคุณภาพ และมีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเรียนวิถีเกษตรอินทรีย์ เข้าชมควรติดต่อก่อนล่วงหน้า สวนผักปากช่อง สวนผักปากช่องโดดเด่นเรื่องวิถีเกษตรแบบพอเพียง โดยแบ่งเป็นฐานการเรียนรู้ให้ผู้เข้าชมได้ศึกษาดูงาน และคุณหนุ่มเสกเจ้าของสวนซึ่งได้รับคัดเลือกเป็นเกษตกรดีเด่น ยังสามารถถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์การจัดการการเกษตรได้เป็นอย่างดี สวนกูโน่ แหล่งปลูกผักสลัดอินทรีย์ต้นแบบที่มีคุณภาพสูง มีการสาธิตการปลูกผักและจัดกิจกรรมปลูกผักสำหรับเด็ก ๆเป็นหมู่คณะและยังสอนทำสลัดผัก สลัดโรล อีกด้วย ตลาดน้ำเขาใหญ่ แหล่งพืชพันธุ์ดอกไม้กว่า 200 ชนิด ให้ได้ชมและศึกษาดูงาน และยังมีกิจกรรมกาแฟคั่วมือให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมทำกิจกรรม เปิดทุกวัน ค่าเข้า100 บาท สวนองุ่น มีอยู่หลากหลายสวน ในกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรปากช่อง เช่น สวนขวัญศรี สวนชัยพฤกษ์ สวนองุ่นคุณหวาน สวนพรมชน ไร่องุ่นไวน์อัลซิดินี่เป็นต้น สวนทุเรียน ทุเรียนปากช่องที่ต้องจองกันก่อนล่วงหน้าเท่านั้นด้วยรสชาติที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของผลไม้ปากช่องจึงทำให้นักท่องเที่ยว ต้องเดินทางมาชิมถึงสวน สวนทุเรียนซีต้า ไร่วงษ์เกษตร 2 สวนในกลุ่มของเราที่ผลิตทุเรียนคุณภาพของปากช่อง ไร่เคนผาพงษ์ ไร่สตรอเบอรี่ออแกนิค เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เก็บเองกับมือที่สำคัญ อร่อยและปลอดภัย สวนลุงชอบ สวนขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 1200 ไร่ ปลูกกล้วย มะม่วง แก้วมังกร คุณภาพส่งออกเหมาะกับคณะศึกษาดูงานเป็นหมู่คณะ ไร่วนกุล แหล่งสะสมพันธุ์พืชหายากจากทั่วประเทศ นักท่องเที่ยวที่เขาชมควรต้องติดล่วงหน้า สวนหน้าวัวลุงสมนึก สวนดอกหน้าวัวและทำมอสกระถาง และไม้ตัดดอก นักท่องเที่ยวที่เขาชมหรือดูงานควรต้องติดล่วงหน้า WBออแกนิคฟาร์ม ฟาร์มออแกนิค มีโรงผลิตปุ๋ยหมักขนาดใหญ่ ปลูกผักขายส่ง มาตรฐานออแกนิคไทยแลนด์ เหมาะกับคณะศึกษาดูงานเป็นหมู่คณะ โปรแกรมการท่องเที่ยว: Pink Route สวนขวัญศรี สวนชัยพฤกษ์ สวนหน้าวัวลุงสมนึก Blue Route เขาใหญ่ฟาร์มวิลเลจ กรีนมี ผักปากช่อง ตลาดน้ำเขาใหญ่ ไร่องุ่นไวน์อัลซิดินี่ Green Route ไร่เคนผาพงษ์ สวนลุงชอบ ไร่องุ่นคุณหวาน เส้นทางเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ: อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ระยะทาง ประมาณ ๕๐ กิโลเมตร ตลาดไนท์ปากช่อง 20-30 กิโลเมตร
นครราชสีมา
สวนองุ่นสิริวัฒน์ เป็นไร่ที่มีองุ่นตลอดทั้งปี และสามารถเข้าชมสวนได้ พิกัด : https://goo.gl/maps/MH6JzZuwGFrjHeK76
สระบุรี
วิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตชาเขียวใบหม่อนถ้ำมังกรทอง ศูนย์ผลิตชาเขียว และปลูกหม่อนอินทรีย์เพื่อส่งออก ของชุมชนถ้ำมังกรทองในจังหวัดกาญจนบุรี
กาญจนบุรี
พบกับร้าน WISDOM CAFÉ แวะจิบกาแฟ ชิลล์ ชิลล์ เพิ่มความสดชื่นท่ามกลางบรรยากาศท้องทุ่ง แชะ แชร์ ถ่ายภาพกับมุมโปรดสุดประทับใจบนสะพานไม้ไผ่ ชมความน่ารักของสัตว์ในวิถีเกษตร สัมผัสเสน่ห์ของวิถีเกษตรไทย สะท้อนวิถีชีวิต ความเชื่อ และประเพณี กับโซนบ้านเรือนไทย 4 ภาค ตื่นตา ตื่นใจ ชมเรือขุด รข.1 เรือขุดในสมัยรัชกาลที่ 5
ปทุมธานี